10 พ.ค. ดิ อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า สิงคโปร์กำลังทดลองวิธีการใหม่เพื่อให้ประชาชนปฏิบัตตามมาตรการเว้นระยะทางสังคม โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศการนำหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า “สป็อต” ทำหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนที่มาออกกำลังกายหรือพักผ่อนตามสวนสาธารณะ ให้เว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“สป็อต” เป็นหุ่นยนต์คล้ายสุนัข ที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทบอสตัน ไดนามิก ทำหน้าที่คอยแจ้งเตือนประชาชนที่มาออกกำลังกายหรือพักผ่อนที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ให้เว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เบื้องต้นทางการจะทดสอบการใช้งานเป็นเวลา 2 สัปดาห์
“สป็อต” จะทำหน้าที่เผยแพร่ข้อความที่มีการบันทึกไว้ล่วงหน้าให้แก่ประชาชน เพื่อเตือนถึงความสำคัญของการเว้นระยะทางสังคม หุ่นยนต์ตัวนี้ยังมีการติดตั้งกล้องที่จะสแกนสิ่งที่อยู่โดยรอบ และช่วยเจ้าหน้าที่ในการคาดคะเนจำนวนประชาชนที่อยู่ในสวน
แถลงการณ์ของรัฐบาลยังระบุว่า กล้องเหล่านี้จะไม่ตรวจจับ และ/หรือจดจำใบหน้าของประชาชน และจะไม่มีการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยว่า สาเหตุที่เลือกหุ่นยนต์รุ่นนี้เพราะความคล่องแคล่วว่องไว มันสามารถทำงานได้ดีในสภาพภูมิประเทศต่างๆ และสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มันมีความเหมาะสมในการปฏิบัติงานในสวนสาธารณะ
เจ้าหน้าที่เผยว่า การนำหุ่นยนต์สป็อตมาใช้งานจะช่วยลดจำนวนพนักงานที่ต้องทำหน้าที่ลาดตระเวนตามสวนสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมจากระยะไกลอย่างน้อย 1 คน ด้านบอสตัน ไดนามิกหวังว่า หุ่นยนต์ตัวนี้จะได้รับความสนใจจากธุกิจต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในภารกิจต่างๆ เช่นการทดสอบอาคารเพื่อหาแก๊สรั่ว หรือการตรวจสอบวาล์ว ที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน
ปัจจุบันโครงการนำร่องนี้ ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการทดสอบนาน 2 สัปดาห์ ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในช่วงที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก และหากได้ผลดี เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพิจารณาขยายโครงการ
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่สิงคโปร์ ยังใช้โดรนกว่า 30 ตัว ในการตรวจนับประชาชนที่เดินทางมายังสวนสาธารณะ และนำหุ่นยนต์ที่คล้ายกับรถยนต์ 4 ล้อขนาดเล็ก มาติดตั้งไว้บริเวณอ่างเก็บน้ำ เพื่อเตือนประชาชนไม่ให้เดินเตร็ดเตร่