SHARE

คัดลอกแล้ว

เมื่อพูดถึง Netflix แล้วคนมักจะนึกถึงซีรีส์ก่อนอย่างอื่น แต่ที่จริงแล้ว Netflix ยังมีรายการที่มีคอนเซปต์สนุก น่าสนใจอยู่อยู่หลายรายการ และในตอนนี้ไม่มีรายการไหนที่เป็นกระแสเท่ากับ ‘Single’s Inferno โอน้อยออก ใครโสดตกนรก’ รายการหาคู่ที่ส่งให้ผู้ร่วมรายการทุกคนดังยกแผงกันไปทั้งกลุ่ม

Single’s Inferno เป็นรายการที่จับเอาผู้เข้าแข่งขันชายหญิงสุดฮอต มาไว้ใน ‘เกาะนรก’ ที่เกาะ ‘ซาซึงบอง’ เกาะแถบนอกชายฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้ ไม่ไกลจากกรุงโซล ที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการให้เป็นหนึ่งในเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ของประเทศ ตามรายงานของกระทรวงมหาสมุทรและการประมง (Ministry of Oceans and Fisheries) เกาะนี้กลายเป็นเกาะที่ไม่มีใครอาศัยอยู่เพราะมีกฏการการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2018 แต่ถึงจะไม่มีคนอยู่ ก็สามารถไปเยี่ยมเยือนได้ โดยเดินทางไป-กลับได้จากชายฝั่งเมืองอินชอน

ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ที่นั่นจะต้องทำอาหาร ตักน้ำมากินเอง และนอนในเต็นท์รวม ส่วนใครใจตรงกันจับคู่ได้ก็จะได้ไปใช้เวลา 1 คืนใน ‘เกาะสวรรค์’ ที่ ‘Paradise Hotel & Resort’ โรงแรมหรูในอินชอน โดยที่เมื่ออยู่เกาะนรกผู้เข้าแข่งขันจะแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวอย่างอายุและอาชีพไม่ได้ แต่ที่เกาะสวรรค์สามารถคุยอะไรก็ได้ตามใจชอบ ฉะนั้นถ้าอยากให้ความสัมพันธ์คืบหน้าก็ต้องจับคู่ให้ได้เท่านั้น

นอกจากการนำผู้เข้าแข่งขันมาติดเกาะเพื่อให้ทุกคนจดจ่ออยู่กับการสร้างความสัมพันธ์ จุดที่น่าสนใจคือการปิดบังอายุและอาชีพการงานจนกว่าพวกเขาจะเริ่มสนใจกันจริง ๆ และต้องการทำความรู้จักกันเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยคัดกรองให้ความสนใจอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าปูมหลังและปัจจัยอื่น ๆ ที่ล้อมรอบชีวิตของพวกเขา ที่จริงมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะสนใจว่าคนที่เราจะคบมีฐานะ หน้าที่การงานเป็นอย่างไร หรือมีครอบครัวแบบไหน อยู่แล้วแต่เรื่องเหล่านี้สำคัญในระดับไหนสำหรับคนเกาหลีใต้?

บทความจาก Straits Times รายงานสถิติจาก Korea Institute for Health and Social Affairs ว่า
● 92.7% จากกลุ่มตัวอย่างหญิงโสด 1,324 คน คิดว่าความสามารถทางการเงิน (financial capability) เป็นเรื่องสำคัญในการเลือกคู่สมรส ในขณะที่มีแค่ 53% จากชายโสด 1,140 คนที่บอกว่าความสามารถทางการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับพวกเขา
● เช่นเดียวกับความสำคัญของอาชีพ ที่ผู้หญิงดูจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีผู้หญิง 87.1% ที่บอกว่าอาชีพการงานของคู่สมรสนั้นเป็นปัจจัยสำคัญ ส่วนผู้ชายมีแค่ 49.9% ที่มีความเห็นเช่นเดียวกัน
● ส่วนการศึกษาดูจะเป็นเรื่องรองลงมาเพราะมีเทียบกับอย่างอื่นดูจะมีเปอร์เซนต์น้อยกว่ามาก โดย 55% ของผู้หญิงและ 31% ของผู้ชายที่บอกกว่าเขาให้ความสำคัญกับพื้นฐานการศึกษาของว่าที่คู่สมรสด้วย
● อีกปัจจัยสำคัญที่ถูกนำมาพิจารณาเมื่อจะมีคู่สักคนคือครอบครัว เพราะกว่า 75% ของผู้ชายบอกว่าพวกเขาเห็นว่าภูมิหลังครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งแม้จะเป็นเปอร์เซนต์ที่น้อยกว่าผู้หญิง เพราะมีผู้หญิง 89.9% ที่คิดว่าเรื่องนี้สำคัญเช่นกัน แต่ว่าก็ยังนับเป็นเปอร์เซนต์ที่สูงกว่าปัจจัยอื่น ๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะเกาหลีใต้ก็เป็นเหมือนประเทศในเอเชียอื่น ๆ ที่มีการอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ เน้นการให้คุณค่ากับความสัมพันธ์และลำดับขั้นในครอบครัว ฉะนั้นการต้องอยู่ร่วมหรือทำกิจกรรมกับครอบครัวที่เข้ากันได้ดี หรือมุมมองการเลี้ยงดูลูกหลานจึงเป็นปัจจัยหลักที่ถูกนำมาคิดเมื่อจะมีชีวิตคู่

แต่ถ้าข้ามปัจจัยทางด้านการเงินและครอบครัวไป คนเกาหลีเขาตกหลุมรักกันตอนไหน และอะไรที่จะทำให้เขารุ้สึกเหมือนได้พบคนที่ใช่แล้ว?

Single’s Inferno เป็นเหมือนการจำลองให้เห็นสังคมเกาหลีขนาดย่อม เพราะเมื่อเรานำสถิติมาลองวางเทียบดูว่าคนเกาหลีใต้เขาคาดหวังอะไรกันบ้างเมื่อออกเดทกับใครสักคน เราก็จะเห็นตัวอย่างของคนกลุ่มต่าง ๆ ในสถิติ มีชีวิตอยู่บนหน้าจอในรายการ

● ในรายงานจากเว็ปไซต์ Statista ในปี 2020 ที่หาคำตอบว่าสถานการณ์ไหนที่ผู้ชายและผู้หญิงรู้สึกว่าพวกเขาได้พบกับคู่เดทที่สมบูรณ์แบบ เผยสถิติจากกลุ่มตัวอย่าง 1500 คน ว่าส่วนใหญ่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงบอกตรงกัน ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าเขาได้พบคู่เดทที่สมบูรณ์แบบระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน
● แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ได้อันดับรองลงมาของผู้ชายและผู้หญิงนั้นต่างกัน โดย ผู้หญิง 33% บอกว่าการจะเป็นคู่เดทสุดสมบูรณ์แบบได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคนนั้น แต่ 26% ของผู้ชายระบุว่าความประทับใจ ‘แรกเห็น’ นั้นเป็นตัวตัดสิน
● นอกจากนี้ยังมีรายงานจากปีเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องการนัดบอด หรือที่คนเกาหลีเรียกว่า ‘โซแกติ้ง’ (소개팅) ที่จะมีแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักที่น่าสนใจให้ไปลองพบปะกัน ซึ่งทำให้เราได้เห็นอินไซต์ของการนัดพบกันครั้งแรกของคนเกาหลีอีกเช่นกัน เพราะจากกลุ่มตัวอย่าง 19,507 คน ผู้ชาย 39% ระบุเขาไม่อยากเจอคนที่ตอบนู่นนี่ไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีคำถาม และ 38% ของผู้หญิงไม่ชอบคนที่ถามคำถามชวนอึดอัดหรือพยายามมาจับตัวของพวกเธอในการนัดบอด

เมื่อเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม ‘จีอา’ สาวฮอตที่สร้างความประทับใจแรกได้ดีด้วยความโดดเด่นจึงมีหนุ่ม ๆ มารุมขนาดนี้ และไหวพริบในการพูดของเธอก็ทำให้ ‘ชีฮุน’ เลือกจะจีบทั้งที่เธอไม่ใช่คนในสเป๊กของเขาซึ่งเป็นแนวสาวใสเท่าไหร่ เช่นเดียวกับผู้ชายส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนใจได้เมื่อพูดจาแล้วรู้สึกถูกคอไม่ได้ยึดติดกับสเป๊กในใจเท่าไหร่นัก ส่วน ‘จินแทค’ ก็อาจจะเป็นตัวแทนของผู้ชาย 26% ที่เลือกจีบผู้หญิงตามสเป๊กและความประทับใจแรกเห็น เพราะเขาเลือกคนที่ตัวสูงแบบที่เขาชอบ ด้าน ‘จียอน’ ที่ไม่เลือกเซฮุนในตอนแรกอาจจะสะท้อน 38% ของผู้หญิงที่ไม่ชอบให้ใครบุกมากเกินไปในตอนแรก

นอกจากความนิยมของรายการ อีกหนึ่งอย่างที่เป็นกระแสไม่แพ้กันคือข่าวของซงจีอา ที่หลังจากมีคนชื่นชมและติดตามเธอเพิ่มอีกมากมายเพราะสไตล์การแต่งตัว แต่งหน้า และการใช้ชีวิตที่หรูหรา แต่มีการเปิดเผยความจริงเบื้องหลังการใช้เสื้อผ้าแบรนด์เนมแทบจะหัวจรดเท้า ว่าแท้จริงแล้วมีการใช้ของลอกเลียนแบบปะปนอยู่ ข่าวนี้ก็สะท้อนให้เห็นความนิยมในสินค้าและไลฟ์สไตล์แบบลักชัวร์รี่ในหมู่ชาวเกาหลีในช่วงวัย 20 และ 30 ปี

● บทความจาก The Korean Economic Daily เผยว่าจากการวิจัยที่ทำร่วมกับ Shinhan Card Big Data Center ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ลูกค้าที่อยู่ในช่วงวัย 20-39 ปี มียอดการใช้บัตรมูลค่าเกิน 1 ล้านวอนต่อยอดใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าอายุระหว่าง 40-69 ปีเสียอีก
● โดย spender รายใหญ่ที่สุด คือลูกค้าหญิงในช่วงวัย 20 และ 30 ปี คิดเป็น 29% ของยอดทั้งหมด
● ส่วนผู้ชายก็ไม่แพ้กัน เพราะในห้าปีที่ผ่านมายอดการใช้บัตรมูลค่าเกิน 1 ล้านวอน ต่อยอดการใช้จ่ายในกลุ่มลูกค้าชายที่อายุน้อย เพิ่มขึ้นมากกว่า 300%
● ในบทความจาก Korea Times ‘ซูยองกู’ ศาสตราจารย์ด้านการบริหารจากมหาวิทยาลัยสตรีซุกมยอง ได้วิเคราะห์ถึงเหตุผลเบื้องหลังการใช้เงินมากขึ้นในคนอายุช่วง 20-30 ปี ว่าเป็นเพราะเทรนด์การ ‘flex’ (플렉스) ที่หมายความถึงการอวดเมื่อซื้อสินค้าลักชัวรี่ และการช้อปแก้แค้นเพื่อแก้อาการหงุดหงิดที่เกิดจากการชีวิตที่โดนจำกัดเพราะมีโรคระบาด
● และในบทความจาก Korea Biz Wire ตีพิมพ์ในปี 2020 มีการอธิบานเทรน ‘flex consumption’ ว่าเทรนการอวดกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนอายุ 20-30 อย่างมาก โดยจากผู้ตอบแบบสอบถาม 3,064 คน มี 52.1% ที่คิดถึงการ flex ในแง่บวก
● ส่วนเหตุผลว่าทำไมต้อง flex มีต่างกันออกไป โดย 52.6% เห็นว่า ‘การทำให้ตัวเองพอใจเป็นเรื่องสำคัญ’ 43.2% คิดว่า ‘เวลาที่จะได้มีความสุขกับสินค้าลักชัวรี่นั้นมีจำกัด’ และ 34.8% เห็นว่า ‘มันแก้เครียดได้ดี’ และยังมีคนอีก 54.5% ยังบอกว่าเขาจะใช้เงินเพื่อ flex อีกในอนาคต
● ความนิยมของการ flex ในเกาหลีสะท้อนผ่าน #플렉스 ใน Instagram ที่ปัจจุบันมีคนโพสท์โดยใช้แท็กนี้กว่า 434,000 ครั้ง และคอนเทนท์การเปิดกล่องรีวิวสินค้าหรู หรือการทำคอนเทนท์ ‘shopping hual’ ใน YouTube ที่หมายถึงการทำวิดีโอซึ่งมาเล่าการซื้อของหลาย ๆ อย่างซึ่งมีอยู่หลายวิดีโอที่ทำวิดีโอซื้อแหลกในหัวข้อสินค้าแบรนด์เนม

นอกจากการ flex แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่การใช้ brand name ในรายการก็ชวนให้นึกถึงเทรนการใช้เงินแบบ ‘ชีบาลบียง’ (시발비용) ซึ่งเป็นคำรวมมาจากคำว่า ‘ชีบาล’ (시발) ซึ่งเป็นคำหยาบในภาษาเกาหลีประมาณเหมือนคำว่า fuck ในภาษาอังกฤษ และ บียง (비용) ที่แปลว่าค่าใช้จ่าย แปลรวม ๆ ได้ว่าเป็น ‘ค่าใช้จ่ายแบบช่างแม่ง’ (fuck it expense) นั่นเอง ซึ่งเป็นการใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็นเพื่อคลายเครียด ซึ่งเป็นเทรนที่ถูกพูดถึงในช่วงปี 2016 บทความจาก foreignpolicy.com เผยว่าชีบาลบียง เป็นค่าใช้จ่ายที่ปรกติคน ๆ นั้นมักจะไม่จ่ายยกเว้นจะเครียด สำหรับบางคนอาจจะเป็นอะไรแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นการนั่งแท็กซี่ เป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่จำเป็น แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนผ่านพ้นวันที่โหดร้ายสำหรับเขาไปได้

เทรนเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเฉย ๆ เพราะความอยากอวดหรือความรักสบายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลพวงมาจากสภาพสังคมที่ชวนสิ้นหวังของเกาหลีใต้ เมื่อมีความเหลื่อมล้ำสูงจนความฝันและการลงทุนแบบเดิม ๆ เช่นการมีบ้านดูเป็นไปไม่ได้และการเก็บเงินไม่สามารถการันตีอนาคตให้กับพวกเขาได้ การใช้เงินเพื่อความสุขในวันนี้จึงดูจะเป็นการใช้เงินที่คุ้มค่ากว่า เหมือนกับที่ ศาสตราจารย์ อเล็กซ์ ลีแทกวัง จากมหาวิยาลัยคยองฮี กล่าวไว้ในบทความของ foreignpolicy.com ว่า ชีบัลบียง ‘เป็นสัญญลักษณ์ของการพยายามจะตอบสนองต่อปัญหาสังคมผ่านการบริโภค’ การใช้สินค้าแบรนเนมที่เป็นที่นิยมขึ้นมากในคนอยู่ 20-30 ปีจึงเหมือนกับ การซื้อความสุขที่แน่นอนให้กับตัวเองในตอนนี้ แทนที่การหวังจะมีความสุขในภายภาคหน้าที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ หรือมีวันมาถึงหรือไม่

ฉะนั้นเมื่อเรามองให้ลึกลงไปกระแสของ Single’s Inferno อาจจะทำให้เราได้เห็นอะไรมากกว่าคนกลุ่มหนึ่งมาหาคู่ แต่สะท้อนให้เห็นปัญหาที่ซ่อนตัวลึกอยู่ในสังคมเกาหลีใต้ และความนิยมของรายการนี้ในทั่วโลกอาจจะทำให้เห็นว่าเกาหลีใต้ไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีแนวคิดแบบนี้ก็ได้

อ้างอิง

http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20220111000689
https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/over-90-per-cent-of-south-korean-women-think-about-wealth-first-when-choosing-a
https://www.statista.com/statistics/1133705/south-korea-situations-of-finding-a-perfect-date-by-gender/
https://www.statista.com/statistics/1133468/south-korea-type-of-persons-people-do-not-want-to-meet-on-blind-date-by-gender/
https://www.kedglobal.com/newsView/ked202109140009
https://www.koreatimes.co.kr/www/culture/2021/12/199_319848.html
http://koreabizwire.com/20s-and-30s-loving-flex-consumption/153331
https://nationalpost.com/news/splurging-because-the-future-is-bleak-south-koreans-have-a-term-for-that
https://foreignpolicy.com/2019/07/04/why-young-koreans-love-to-splurge-shibal-biyong-millennial-fuck-it-expense/

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า