โฆษกรัฐบาล แจงสั่งซื้อวัคซีน ‘ซิโนแวค’ เพิ่ม 12 ล้านโดส เพื่อใช้ฉีดแบบไขว้ ซิโนแวค+แอสตร้าเซเนก้า เผยงานวิจัยชี้ฉีดไขว้ภูมิสูงถึง 4 เท่า จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ใช้สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนเข็มแรก ระหว่างที่รอวัคซีน mRNA
วันนี้ 17 ส.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค เพิ่มเติม ว่า การตัดสินใจอยู่บนการศึกษาและเก็บข้อมูล ตั้งแต่ WHO อนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็ม 1 และ 2 แบบไขว้ชนิด ซึ่งในประเทศไทยพบว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม จะมีภูมิต่ำกว่าฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม แต่จากการศึกษาเมื่อฉีดซิโนแวคเข็ม 1 และ แอสตร้าเซนเนก้าเข็ม 2 มีภูมิขึ้นสูงกว่าฉีด แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ถึง 4 เท่า
จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนแบบไขว้ สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนเข็มแรก ในระหว่างที่รอวัคซีน mRNA ที่จะเข้ามาในไตรมาส 4 ปีนี้
ส่วนกรณี มีผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ นั้น นายอนุชา ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ให้จังหวัดและสาธารณสุขจังหวัด เข้ามาดำเนินการสอบสวน หากพบมีความผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า ไม่มีนโยบายฉีดให้กับ VVIP แต่อย่างใด
ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนไทยจะได้ฉีดให้ประชากรให้คลอบคลุมทุกกลุ่มภายในสิ้นปีนี้แน่นอนหรือไม่นั้น ปัจจุบันการฉีดวัคซีน มีข้อมูลว่าฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 24 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 ประมาณ 18.3 ล้านโดส เข็มที่ 2 ประมาณ 5.2 ล้านโดส และเข็ม Booster เข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และด่านหน้าประมาณ 500,000 โดส โดยคาดการณ์ว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จะสามารถฉีดได้ถึง 30 ล้านโดส โดยภายในเดือนนี้มีการฉีดระหว่างช่วงวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา สูงถึง 600,000 โดสต่อวัน เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับวัคซีนที่จะเข้ามา ซึ่งสามารถเพิ่มศักยภาพในการฉีดได้
นายอนุชา บูรพขัยศรี ยืนยันว่า จะมีวัคซีนเข้ามาครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ เพราะฉะนั้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม จะมีศักยภาพในการฉีดมากกว่า 15 ล้านโดสต่อเดือนอย่างแน่นอน และภายในสิ้นปีนี้ วัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส จะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย