‘ศิริกัญญา’ บี้รบ. แจงแผนงาน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ทั้งหมดให้ชัด ปมเงิน ธ.ก.ส. แนะถามกฤษฎีกาก่อน

‘ศิริกัญญา’ บี้รัฐบาล แจงแผนงาน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ทั้งหมดให้ชัด ปมยืนเงิน ธ.ก.ส. แนะถาม ‘กฤษฎีกา’ ก่อน

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ หลังรัฐบาล แถลงมติบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต เปิดเผยแหล่งที่มาเงินที่จะใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ให้คนไทย 50 ล้านคน

โดย น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า การแถลงครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรที่น่าตื่นเต้น ตกใจ เพราะเป็นไปตามที่ตนคาดการณ์ ก่อนหน้านี้ว่า จะมาจาก 3 แหล่ง คือ งบปี 68 ที่ชัดเจนแล้วว่าได้ขยายงบประมาณประจำปี โดยการกู้ชดเชยขาดดุลเกือบชนเพดานหนี้ เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว

ส่วนเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งยังต้องเป็นแหล่งในการทำโครงการอื่นๆ เช่นการพักหนี้เกษตรกร ยังคงต้องดูตัวเลขสุดท้ายว่า พอมีดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งพยายามบิดทุกวิถีทางของวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส. แล้ว ธ.ก.ส. ยังจะเหลือวงเงินไปใช้ในโครงการอื่นๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอยู่หรือไม่

ขณะที่การจะใช้งบปี 67 ทางปลัดกระทรวงการคลังบอกแค่ว่าต้องไปบริหารจัดการ แต่เงินได้ผ่านทั้ง 2 สภาฯ แล้วจะมาแก้ไขตอนนี้ มันก็ค่อนข้างที่จะจำกัดค่อนข้างมาก เท่าที่พยายามดูแล้วช่องทางหนึ่งคือการกู้ชดเชยขาดดุลเพิ่มเพื่อนำงบประมาณไปออกเป็น งบประมาณรายจ่ายประจำปีเพิ่มเติม หรือที่เราเรียกว่า งบกลางปีของปี 67 ซึ่งวางวงเงินตรงนี้ไว้ถึง 170,000 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ยังกังวลใจ เพราะกู้ชดเชยขาดดุลจนเต็มเพดานยังได้มาแค่แสนเดียว ดังนั้นต้องมีงบกลางเข้ามาผสม รวมทั้งจะมีการไปตัดลดงบประมาณเพื่อโอนเปลี่ยนแปลงมาใส่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่

“ตรงนี้เป็นแหล่งที่มาที่สะท้อนให้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีการเตรียมการอะไรไว้ล่วงหน้าเลย เพราะว่างบ 68 ตามปฏิทิน… สำนักงบประมาณต้องทำร่างแรกเสร็จแล้ว ก็มารื้อกันใหม่เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้วมีการทบทวนแผนการคลังระยะปานกลาง เมื่อวานนี้ก็มีการขยายกรอบงบประมาณประจำปีไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงต้องทบทวนแก้ไขตัวปฏิทินงบประมาณด้วย ทุกอย่างก็กระทบกันเป็นระลอก เป็นเพราะว่ารัฐบาลไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ล่วงหน้าเลยแม้แต่น้อย” ศิริกัญญา กล่าว

หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า อยากฝากรัฐบาล เมื่อยืนยันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะได้ใช้ใน ไตรมาส 4 ไม่เลื่อนแน่นอน อยากเห็นแผนงานทั้งหมด เช่น ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีจะทำได้เมื่อไร การพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่นใหม่จะเสร็จเมื่อใด เพราะมีการยืนยันจะไม่ใช้ แอปฯ เป๋าตัง ไม่ใช่แค่การหาแหล่งที่มางบประมาณให้ครบจำนวน รวมถึงกรณีร้านสะดวกซื้อจะรวมอยู่ในร้านค้ารายเล็กที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการหรือไม่ รายละเอียดยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะกลไกที่ยุ่งยากในการแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสดคือ ต้องใช้ 2 รอบ จึงสามารถแลกเป็นเงินสดได้ จะแลกได้เฉพาะร้านที่อยู่ในฐานภาษีเท่านั้น อาจทำให้ร้านค้ารายย่อยตัวจริงไม่อยากเข้าร่วมโครงการ เพราะแลกมาแล้วก็ยังแลกเป็นเงินสดไม่ได้ จะมีความลำบากสำหรับร้านค้ารายเล็ก ถ้าร้านค้ารายเล็กร่วมโครงการน้อย การจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนอยู่ในระดับฐานรากก็น่ากังวลใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะมีส่วนเพิ่มจีดีพี (GDP) ให้กับประเทศหรือไม่ ศิริกัญญา ระบุตอนหนึ่งว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลแล้วว่าจะสามารถเป็นไปได้อย่างที่คาดการณ์หรือไม่ แต่ที่เป็นกังวลมากกว่า รัฐบาลสัญญากับเราไว้ว่า GDP จะต้องโตเฉลี่ย 5% แต่ปีที่อัดทุ่มงบประมาณมากที่สุด ยังโตได้แค่ 5.1 เต็มที่ แล้วปีอื่นๆ ที่เหลือที่ไม่เหลือเงินไปทำอย่างอื่นแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น

“ผลที่จะตามมาก็คือเรื่องหนี้สาธารณะ ตอนนี้เฉพาะที่ขยายวงเงินของปี 68 หนี้สาธารณะขึ้นไปอยู่ที่ 67% เรียบร้อยแล้ว ภาระดอกเบี้ยจ่ายแต่ละปีขึ้นมา 11% ของรายได้ เท่ากับว่าจัดเก็บรายได้ ได้มาเท่าไหร่ก็เอาไปจ่ายเป็นดอกเบี้ยหมดไปแล้ว นี่ยังไม่นับว่าปี 67 ก็ต้องกู้เพิ่มอีก อันนี้ก็จะเป็นอีก 1 คอขวดที่สำคัญ ที่รัฐบาลจะต้องก้มหน้ารับไป ยิ่งใช้เร็วก็น่าจะยิ่งดี ก็ยิ่งจะทำให้ไปกินงบประมาณในส่วนอื่นๆ ไปอีกระยะ ที่สำคัญก็คือว่ารัฐบาลชุดต่อไป ที่จะต้องมาแบกรับภาระหนี้ต่อ ก็ทำให้อยู่แบบถึงคอหอยแล้ว อีกนิดเดียวก็จะชนเพดานที่ 70% แล้ว อันนี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่จะต้องตามมา นี่ขนาดว่า กู้ที่เป็นสาธารณะเพียงแค่ 2 อัน คืองบ 67 กับ งบ 68 เนอะ ยังไม่นับรวมกู้ ธ.ก.ส. ซึ่งไม่ได้อยู่รวมในหนี้สาธารณะก็จริงแต่ว่าสุดท้ายก็ยังต้องใช้เงินงบประมาณใช้คืนหนี้อยู่ดี…นอกเหนือที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มันก็มีภาระที่มันแฝงตามมาด้วยหลังจากที่ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐมีอำนาจในการใช้เงินของ ธ.ก.ส. และเป็นไปตามวินัยการคลังหรือไม่ว่า น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่อง ธ.ก.ส. ยังมีประเด็นในเรื่องของข้อกฎหมาย เพราะว่าตามวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส. ที่ระบุไว้ตามกฎหมายสามารถทำได้ในการช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ข้อใดที่จะไปทำให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต

ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นประเด็นกันอยู่ว่า จะต้องส่งคณะกรรมกฤษฎีกาตีความเหมือนกับกรณีของธนาคารออมสินหรือไม่ แต่ว่ามันมีความเทาๆ ที่จะสามารถตีความให้เข้าข้างรัฐบาลก็สามารถทำได้ แต่การที่ละเลยที่จะมีการให้กฤษฎีกาช่วยตีความก่อนก็เป็นสิ่งที่น่ากังวล ที่สำคัญจะทำอย่างไรให้มีเงินมาใช้จ่ายให้เต็มที่ เพราะ ธ.ก.ส. ยังติดเกณฑ์ของกรอบวินัยการเงินการคลัง รัฐบาลก็พูดย้ำหลายรอบว่า ไม่มีการขยายแน่นอน ก็ต้องมารอดูว่า โครงการไหนจะไปก่อน เพราะพักหนี้เกษตรกรจะทำต่อจนครบ 3 ปีหรือไม่ หรือว่าโครงการไร่ละ 1 พัน จะยังคงเดินหน้าไปต่อได้หรือไม่ อันนี้ก็เป็นข้อกังวลสำหรับการใช้เงินของ ธ.ก.ส.

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างไร นอกจากรอให้รัฐบาลถามกฤษฎีกา น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า รัฐบาลจะถามกฤษฎีกาอยู่หรือไม่ เราก็จะช่วยกระทุ้งอีกแรงว่าดูให้ดีๆ หรือต้องแก้ไข พ.ร.บ. ธ.ก.ส. ให้เรียบร้อยก่อน ถ้ารัฐบาลจะออก พ.ร.บ. งบประมาณปี 68 แก้นิดหน่อยเพื่อให้มีความสบายใจ และให้ ธ.ก.ส. ไม่ต้องกังวลที่จะเอาเงินมาให้ดิจิทัลวอลเล็ตใช้ด้วย แค่นี้ก็บิดมากพอแล้วที่ให้เป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะ เพื่อที่จะจ่ายให้เฉพาะเกษตรกร ต้องไปหามา 17 ล้านคนก็ว่าเหนื่อย ตัวระเบียบและกฎหมายต่างๆ ก็ควรจะทำให้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3 ช่องทางแหล่งเงิน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ แจกเงินหมื่นคนไทย 50 ล้านคน ปลายปีนี้