หมอศิริราช เผย “หน้ากากอนามัย N95” มีค่าเท่าทอง-หวั่นใน 2 สัปดาห์ขาดแคลน

แพทย์ศิริราชเผยสิ่งที่แพทย์ขาดแคลนต้องการเร่งด่วน พร้อมเชิญชวนร่วมบริจาค เงินและอุปกรณ์เพื่อด่านหน้ารับมือโควิด-19

วันที่ 2 เมษายน ที่โรงพยาบาลศิริราช มีประชาชน ผู้ประกอบการ ทยอยบริจาคสิ่งของที่จำเป็นเพื่อการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยมี รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานรับมอบ

รศ.นพ.นริศ เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลยังทยอยรับเงินบริจาค สิ่งของ เวชภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีประชาชนบริจาคอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งของที่โรงพยาบาลศิริราชขาดแคลน โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยแบบ N-95 และชุด PPE ปัจจุบันที่ศิริราชมีความต้องการใช้วันละไม่ต่ำกว่า 200 ชุด ทั้งหน้ากากอนามัยแบบ N-95 และชุด PPE ซึ่งที่ผ่านมาติดข้อกำหนดเรื่องการนำเข้า ทำให้ไม่เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ โดยปริมาณหน้ากากอนามัยแบบ N-95 ทางโรงพยาบาลศิริราชได้รับมาในขณะนี้เป็นการจัดสรรจากการบริจาคเพียงอย่างเดียว

ซึ่งหากไม่มีการบริจาคเข้ามาเพิ่ม คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์จะประสบปัญหาภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัยแบบ N-95 แน่นอน พร้อมแนะหากไม่มีแผนการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยแบบ N-95 รองรับในอนาคตมีโอกาสขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อบุคลากรทางการแพทย์เพื่อใช้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในอนาคตที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงตอนนี้หากประชาชนท่านใดที่มีหน้ากากอนามัยแบบ N-95 สามารถไปบริจาคที่เคาน์เตอร์โรงพยาบาล ทั้งที่ศิริราชหรือโรงพยาบาลในส่วนภูมิภาคได้ทุกแห่งสำหรับแพทย์แล้ว ตอนนี้หน้ากากอนามัยแบบ N-95 มีค่าเทียบเท่าทองก็ว่าได้

ขณะที่ห้องความดันลบที่ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยวิกฤตโควิด-19 ปัจจุบันศิริราชมี 7 ห้อง ขณะนี้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 เต็มทั้งหมดแล้ว กำลังดำเนินการจัดสร้างอีก 7 ห้อง ค่าใช้จ่ายก่อสร้างพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นติดตั้งไม่ต่ำกว่าห้องละ 10 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้เครือข่ายโรงเรียนแพทย์มีการเตรียมพร้อมสำหรับการรองรับผู้ป่วยหนัก พร้อมขอเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนในการเร่งจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยและเพื่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ทีม Covid-19 ได้ที่

– ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 901-3-50034-4 ชื่อบัญชี ศิริราชมูลนิธิ (ศิริราชสู้ภัยโควิด)
– ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 016-3-04590-7 ชื่อบัญชี ศิริราชรักษภิบาล

ด้านนายประพล อนุเคราะห์ดิลก ประธานรุ่นโครงการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ K SME CARE รุ่น 25 กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการแม้จะได้รับผลกระทบหนัก แต่มองว่าบุคลากรทางการแพทย์ในฐานะด่านหน้าที่สำคัญ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือในการดูแลความปลอดภัยอย่างเพียงพอ โดยทางกลุ่ม K SME CARE รุ่น 25 ซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการหลากหลายสาขาได้ระดมทั้งเงินบริจาค และสิ่งของภายใต้กิจกรรมชื่อ” K25 เฉพาะกิจสู้ภัยโควิด-19” พร้อมส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ร่วมใจต้านโควิด-19 รวมมูลค่า 300,000 บาท และได้ทยอยส่งมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ

โดยก่อนหน้านี้ได้ส่งมอบให้กับสถาบันสุขภาพเด็กมาหาราชินี กรมการแพทย์ จำนวน 160,000 บาท และในวันนี้ นำมามอบให้กับโรงพยาบาลศิริราชเป็นสิ่งของ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ในการรับมือกับโควิด-19 รวมมูลค่า 140,000 บาท ทั้งนี้ยังดำเนินการเปิดรับจากสมาชิกและเอกชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้ประกอบการ และประชาชนภาคส่วนต่างๆผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน