“รูปลักษณ์ภายนอก” เป็นสิ่งแรกที่คนเราเลือกจะมองและบางครั้ง บางคนก็เผลอตัดสินไปก่อนว่า คนที่เราพบนี้เป็น “คนดี” หรือ “คนไม่ดี” จากภายนอกที่พบเห็น ซึ่งหลายครั้งก็ไม่ใช่การตัดสินที่ถูกต้องนัก เช่นเดียวกับเรื่องราวของ “อดิศร แก้ววงศา” พ่อค้าขายขนมตือคาโค หรือขนมขาหมู ที่จอดรถขายขนมฝีมือตัวเองอยู่ตรงข้ามทางเข้าวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
อดิศร อายุ 38 ปี เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยสัก โดยเฉพาะที่แขนทั้งสองข้าง รวมทั้งบริเวณลำคอที่การใส่เสื้อยืดในแบบที่เขาชอบ ไม่ได้ปกปิดรอยสักระลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 และเลขเก้าไทย ทุกวันๆ อดิศรลงมือเตรียมข้าวของและทำขนมขายเองเพื่อเลี้ยงดูแม่ นางพูลสุข ไชยกันย์ อายุ 67 ปี ที่ป่วยหลายโรครุมเร้า จ่ายค่าเช่าบ้านเช่าเดือนละ 5,000 บาท
แม้ภายนอกต้องยอมรับว่า อดิศรดูไม่น่าเข้าใกล้ แต่เมื่อมองไปที่ป้ายผืนใหญ่ที่ติดอยู่กับรถพ่วงแล้วหลายคนถึงกับยิ้มออก และเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่ออดิศรไปเลย
“ตือคาโค (ขนมขาหมู) ชิ้นละ 5 ชุด ๆ ละ 30 บาท คนท้องกินฟรี จนกว่าจะคลอด คนพิการกินฟรี จนกว่าจะเลิกขาย ขอบคุณครับ”

(อดิศร แก้ววงศา พ่อค้าขายขนม)
อดิศร บอกว่า ที่เขาติดป้ายแจกขนมให้คนท้องกินฟรีจนกว่าจะคลอด เพราะตนเองไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำบุญก็อยากทำบุญกับคนท้อง นึกถึงเด็กในท้องจะได้กินขนมของเขา จนกว่าแม่จะคลอด 9 เดือน เลย ส่วนคนพิการ ก็เพราะเขาขาไม่ดี เลยอยากให้คนพิการได้กินขนมของเขาด้วย
นายอนุพล ทรัพย์ประเสริฐ อายุ 35 ปี กับนางกิติมา พิเชฐโสภณ อายุ 31 ปี ภรรยาที่กำลังตั้งท้องได้ 8 เดือนแล้ว แวะซื้อขนมที่ร้านของอดิศรแล้ว สั่งขนม 2 ชุดพยายามจะจ่ายเงินให้แต่อดิศรไม่รับ

(ลูกค้า)
นายอนุพล บอกว่า “แกไม่เอาตังค์นะ แฟนผมจะให้ตังค์แกก็ไม่เอา จนต้องซื้อ 1 แล้วแกถึงแถมให้ รูปลักษณ์ภายนอกแกก็น่ากลัวแต่ก็สะอาด ทำขนมสะอาด ดีครับเพราะว่าสังคมทุกวันนี้มองรูปลักษณ์ภายนอกกันไม่ได้ แล้วแกก็เป็นคนหนึ่งที่ทำให้คนเมืองศรีสะเกษเชิดหน้าชูตาจากการแสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ สังคมอยู่ได้เพราะการแบ่งปันกันแหล่ะครับ”

(ลูกค้ากำลังตั้งครรภ์)