Slow Fashion Season Challenge หนึ่งในชาเลนจ์ทางเลือกในการแก้ปัญหา Fast Fashion และช่วยลดมลภาวะ
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ปัญหามลภาวะที่ส่งผลกระทบต่อโลกมากจากการใช้พลังงานต่างๆ อาทิ น้ำมัน หรือการใช้ถุงพลาสติกจนเกิดเป็นปัญหาขยะพลาสติกเฟ้อ แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัว แล้วเราอาจจะจะไม่ทันได้คิดนั้นก็คือเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของเรา โดยในแต่ละปีทั่วทั้งโลกมีการผลิตเสื้อผ้าออกมามากถึง 80,000,000,000,000 ตัว และมีเสื้อผ้ากว่า 2 ล้านตันที่ถูกทิ้ง
นอกจากปริมาณการผลิตที่มีมากมายแล้วนั้น ยังมีทรัพยากรอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องถูกใช้ในการผลิตเสื้อผ้า โดยเสื้อยืด 1 ตัว ต้องใช้น้ำในการผลิตถึง 2,500 ลิตร และ 8,000 ลิตร สำหรับกางเกงยีนส์ 1 ตัว อีกทั้ง 25% ของสารเคมีทั่วโลกถูกใช้ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า นอกจากปัญหาเรื่องมลภาวะแล้วยังมีเรื่องการปัญหาการใช้แรงงานในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ทั้งเรื่องการกดขี่ค่าแรง และการใช้แรงงานเด็ก
Slow Fashion Season Challenge จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อลดปัญหาดังกล่าว โดยหัวใจของชาเลนจ์นี้คือ การเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ หรือเลี่ยงการใช้สารเคมีและกระบวนการการผลิตที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อธรรมชาติ รวมถึงการลดการซื้อเสื้อผ้าอีกด้วย
ล่าสุดทางเพจ Fashion Revolution Thailand ได้รณรงค์แคมเปญ Slow Fashion Challenge ขึ้น โดยมีกฏว่า ใช้เสื้อผ้ามือสองได้, เช่าได้, แลกเปลี่ยน (swap) ได้ และซ่อมเสื้อผ้าได้ โดยห้ามซื้อเสื้อผ้าใหม่เด็ดขาดเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งทางเพจระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว มีคนร่วมchallenge นี้ 2,625 คน ลดน้ำไปได้ 90,000 ลิตรและเซฟคาร์บอนอีก 360 ตัน ซึ่งหากใครสนใจกิจกรรมดังกล่าวสามารถเข้าไปสมัครร่วมกิจกรรมได้ที่ slowfashionseason.org