กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็นรายที่สอง สั่งยกระดับเฝ้าระวังและควบคุมโรค 4 สนามบิน เตือนประชาชนเลี่ยงเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งกำลังมีการแพร่ระบาด
วันที่ 17 มกราคม นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวยืนยันการพบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่จากจีนในประเทศไทยเป็นรายที่ 2 เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 74 ปี ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร อยู่ในการดูแลของแพทย์ อาการดีขึ้น ซึ่งหากผลตรวจจากห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อไวรัส แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายแรก อาการดีขึ้น ไม่มีไข้ แต่ต้องรอผลยืนยันว่าไม่สามารถแพร่เชื้อต่อได้ จึงจะปล่อยตัวกลับประเทศ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จากการติดตามตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายแรก จำนวน 16 คน และผู้สัมผัสใกล้ชิดรายที่ 2 จำนวน 20 คน ไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังไม่มียารักษา และไม่มีวัคซีนป้องกัน การรักษาจึงต้องกักบริเวณ ให้ยาพื้นฐาน และผู้ป่วยจะหายเอง เหมือนโรคไข้หวัดใหญ่ ที่หากรักษาทัน จะต้องใช้เวลา และสามารถหายได้เอง

(แฟ้มภาพ)
อย่างไรก็ตามจากการพบผู้ป่วยเพิ่ม ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับเฝ้าระวังและควบคุมโรคเข้มงวดขึ้นในจุดคัดกรองผู้โดยสารที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ในท่าอากาศยาน 4 แห่ง ได้แก่สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่และภูเก็ต
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงขอให้ระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ ตลาดค้าสัตว์ หรือสินค้าจากสัตว์ หรืออยู่ในที่คนหนาแน่น และหากกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง และมีอาการเริ่มป่วย เช่น มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ขอให้รีบไปพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้

(แฟ้มภาพ)