‘ตุ๊กตุ๊กหัวร้อน’ ถูกปรับ 1,000 บาท อบรม 3 ชั่วโมง หลังเรียกค่าโดยสารนทท.ต่างชาติแพง-ใช้คำหยาบคาย

‘ตุ๊กตุ๊กหัวร้อน’ ถูกปรับ 1,000 บาท อบรม 3 ชั่วโมง หลังเรียกค่าโดยสารนทท.ต่างชาติแพง-ใช้คำหยาบคาย

จากกรณีอินสตาแกรม singapore_incidents เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายโดยคู่รักชาวสิงคโปร์ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และพบกับประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจ จากการใช้รถโดยสารสาธารณะอย่าง ‘ตุ๊กตุ๊ก’ โดยบรรยายคลิปเป็นข้อความภาษาอังกฤษ  “Another horrible experience for a Singaporean couple at Thailand, this time with a TukTuk driver” ซึ่งหมายความว่า “อีกประสบการณ์ที่น่ากลัวสำหรับคู่รักชาวสิงคโปร์ที่ประเทศไทย ครั้งนี้เกิดจากคนขับรถตุ๊กตุ๊ก”

ทั้งนี้ผู้โพสต์คลิปได้นั่งรถตุ๊กตุ๊ก จากเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเดินทางไปยังที่พักใกล้ BTS สุรศักดิ์ และตกลงราคา 150-160 บาท แต่เมื่อเดินทางถึง BTS ช่องนนทรี คนขับกลับ ขอคิดเงิน 300 บาท แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจึงเกิดเป็นเหตุการณ์ตามคลิประหว่างคนขับรถตุ๊กตุ๊ก และคู่รักนักท่องเที่ยว ชาวสิงคโปร์ กำลังยืนโต้เถียงกันอยู่ที่บริเวณริมถนนในกรุงเทพฯ ประเด็นค่าโดยสารที่เข้าใจไม่ตรงกัน โดยคนขับรถตุ๊กตุ๊ก ชี้หน้า นักท่องเที่ยว ตะโกนคำหยาบคาย อีกทั้งตบกล้องที่ใช้ถ่ายคลิปอยู่ และตั้งใจเข้ามาผลักอีกซ้ำๆ แต่หญิงสาวในคลิปพยายามห้ามไว้ คนขับรถตุ๊กตุ๊ก ไม่ได้เกรงกลัวแม้ว่าจะถูกถ่ายป้ายทะเบียนรถไว้ แต่กลับเดินไปหยิบป้ายมาให้ถ่ายชัดๆ อีกด้วย ซึ่งเวลาต่อมามีการได้เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ความคืบหน้า พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ธวัช ปิ่นประยงค์ ผบก.ทท.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ. ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ และใช้วาจาไม่สุภาพกับนักท่องเที่ยว

จากนั้นได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และกองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (กก.คธม.) ออกติดตามตัว  นายทองคำ เฉิดฉาย อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นโซเฟอร์สามล้อมาสอบสวน ที่ กก.1บก.ทท.1 ก่อนดำเนินการเปรียบเที่ยบปรับที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เป็นเงิน 1,000 บาท กรณีใช้ใบอนุญาตขับขี่ผิดประเภท รวมทั้งดำเนินการแจ้งข้อหา เป็นผู้ขับขี่รถโดยสารใช้วาจาไม่สุภาพ ม.57ฉ (2) ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

และนำตัวไปส่งเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับกฎระเบียบและจิตสำนึกในการขับรถที่ดี เป็นเวลา 3 ชั่วโมง พร้อมทั้งบันทึกประวัติเพื่อติดตามพฤติกรรมต่อไป นอกจากนี้ทางตำรวจท่องเที่ยวประสานสถานทูตสิงคโปร์ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยวที่ดีของประเทศไทยต่อไป