SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลแขวงเชียงใหม่ พิพากษาลงโทษ คดีรองอธิบดีผู้พิพากษาฯ เมาขับชนรถสามล้อ ในคืนก่อนส่งท้ายปี

จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์และข่าวสถานีโทรทัศน์ ช่วงคืน 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ทำนองว่า มีชายซึ่งถูกถ่ายคลิปเผยแพร่ภายหลังเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนรถกู้ภัย ที่บริเวณแยกแสงตะวัน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และอ้างตัวว่า เป็นรองอธิบดีผู้พิพากษานั้น

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2565 พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงเชียงใหม่ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ จำเลย ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น, ขับรถโดยประมาท ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ยอมทดสอบแอลกอฮอล์ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลแล้วไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร

ศาลแขวงเชียงใหม่ ประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ 229/2565 ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลจึงมีคำพิพากษาเป็นคดีอาญาหมายเลขแดง 226/2565 ว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2) (4), 78 วรรคหนึ่ง, 142 วรรคสอง, 154 (3), 157, 160 วรรคหนึ่ง, 160 ตรี วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 91 ฐานขับรถขณะเมาสุรากับฐานขับรถโดยประมาท เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานขับรถขณะเมาสุราซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ.มาตรา 90 พิเคราะห์พฤติการณ์เกี่ยวกับการกระทำความผิดกับความเสียหาย ซึ่งปรากฏตามคำฟ้องว่า จำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ ถือว่าจำเลยสำนึกผิดและบรรเทาผลร้ายแล้ว ฐานขับรถขณะเมาสุรา ปรับ 18,000 บาท ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควร ฯ ปรับ 10,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ปรับ 1,000 บาท

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 ฐานขับรถขณะเมาสุรา คงปรับ 9,000 บาท ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควร ฯ คงปรับ 5,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร คงปรับ 500 บาท รวมปรับ 14,500 บาท และให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยมีกำหนด 6 เดือน นับแต่วันมีคำพิพากษา ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ข้อหาอื่นให้ยก

คดีนี้ หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วหากพนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์คำพิพากษา คดีก็จะถึงที่สุด แต่หากมีการอุทธรณ์คำพิพากษาก็ต้องรอผลการพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ต่อไป

สำหรับในการดำเนินการในส่วนอื่นนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมอยู่ระหว่างรอรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากต้นสังกัดของนายชาญศักดิ์ ซึ่งเมื่อได้รับแล้วจะต้องพิจารณารายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบกับผลของคดีข้างต้นว่าจะต้องดำเนินการทางวินัยต่อไปหรือไม่อย่างไร หากข้อเท็จจริงอยู่ในข่ายที่จะต้องดำเนินการทางวินัยอย่างไร ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2564 เพจเฟซบุ๊ก ‘เจ้ม๊อย Vplus’ ได้โพสต์คลิปพร้อมด้วยข้อความ “เมาแล้วขับ ย้อนศรชนแล้วหนี อ้างเป็นรองอธิบดี ภาค 5 …เหตุเกิดที่บริเวณแยกแสงตะวัน ย้อนศรมาชนตุ๊กๆ แล้วหนี” ผู้เสียหาย คือ นายไพรโรจน์ พรหมธารา อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกู้ภัยร่วมเชียงใหม่ล้านนา

ในวันเกิดเหตุระหว่าง ที่พยายามขับรถหนี และมีการโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ และเดินเข้ามาหาเจ้าหน้าที่ที่กำลังถ่ายคลิป โดยพูดในทำนองว่า ต้องผลักดันการแก้ พ.ร.บ.แอลกอฮลล์ ยานพาหนะทุกอย่างที่คนเมาไม่ว่าจะแอลกอฮอล์ หรือยาเสพติด ถ้าขับไปชนใครให้ริบเป็นของแผ่นดิน ขายได้เท่าไหร่เอามาแบ่งให้คู่กรณีและรัฐ ฝ่ายละ 50 เปอร์เซนต์

ขอบคุณภาพปก : เว็บไซต์ศาลแขวงเชียงใหม่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า