‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ ฟีเวอร์ ดันมะม่วงขึ้นราคา พาณิชย์เผย Soft Power ทำเงินแล้ว 3,905 ล้าน

กระทรวงพาณิชย์เปิดตัวเลขผลักดันส่งออก Soft Power 4 กลุ่มสินค้า 6 เดือนทำเงินเข้าประเทศแล้ว 3,905 ล้านบาท ล่าสุดมะม่วงน้ำดอกไม้ เกรดคุณภาพ ขึ้นราคาเป็นกิโลกรัมละ 25-35 บาท

วันที่ 20 เม.ย. 2565 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคามะม่วงได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีการเข้าไปแทรกแซงด้วยการรับซื้อมะม่วงมาจำหน่าย รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และกระจายมะม่วงจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล และปัจจุบันมีกระแสการบริโภคข้าวเหนียวมะม่วงเพิ่มขึ้นก็ยิ่งทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น

มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรดคุณภาพ ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 25-35 บาท สูงกว่าปีก่อนที่ 22-25 บาทต่อ กก. ส่วนเกรดคละ ปัจจุบันอยู่ที่ 11-13 บาทต่อ กก. สูงกว่าปีก่อนที่ 8-12 บาทต่อกก. ซึ่งช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมฯ ได้เข้าไปแทรกแซงรับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงเพชรบ้านลาด ในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง เช่น จ.พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร ตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต ช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อช่วยพยุงราคาไม่ให้ตกต่ำ โดยขณะนี้ผลผลิตมะม่วงฟ้าลั่นได้ออกสู่ตลาดหมดแล้ว และน้ำดอกไม้อยู่ในช่วงปลายฤดูการผลิต และยังมีแผนขึ้นไปรับซื้อในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ จ.ลำพูน เชียงใหม่ และพื้นที่อื่น ๆ

สำหรับการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย กรมฯ ได้ร่วมมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพิ่มช่องทางการกระจายผลไม้จากเกษตรกรสู่ผู้บริโภค โดยเปิดให้โรงงานและบริษัทต่าง ๆ ที่อยู่ในการนิคมอุตสาหกรรมกว่า 3,500 แห่ง ใน 63 นิคม เข้ามาพรีออเดอร์มะม่วง และผลไม้ตามฤดูกาลอื่น ๆ เช่น มังคุด ทุเรียน ลำไย ลองกอง เป็นต้น โดยให้ไปรษณีย์ช่วยบริหารและจัดส่งให้

ขณะเดียวกันได้ตั้งจุดจำหน่าย โดย กนอ. จัดสรรพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม ให้เกษตรกรสามารถวางจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาล และยังได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 33 จังหวัด เปิดจุดจำหน่ายมะม่วงดอกไม้จากแหล่งผลิตสำคัญ ได้แก่ พิจิตร พิษณุโลก อุดรธานี เป็นต้น จำนวน 78 จุด เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนบริเวณหน้าห้างท้องถิ่นด้วย

• ไทยส่งออก Soft Power 4 กลุ่มสินค้า 6 เดือนทำเงินเข้าประเทศแล้ว 3,905 ล้านบาท

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินการตามนโยบาย Soft Power ช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564 – มี.ค.2565) ทำการผลักดันการส่งออกใน 4 กลุ่มสินค้าเกี่ยวข้อง ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพความงาม และสินค้าสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการไทยได้ 1,878 ราย สร้างมูลค่าการค้ารวม 3,905 ล้านบาท เป็นการส่งออกสินค้า 4 กลุ่ม 1,258 ล้านบาท และส่งออกผลไม้ 2,647 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการผลักดันการส่งออกผลไม้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของไทย โดยจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching – OBM) สำหรับฤดูผลไม้ภาคตะวันออกกับผู้นำเข้าทั่วโลกไปแล้ว 2 ครั้ง สร้างยอดขาย 2,617.33 ล้านบาท

สำหรับฤดูผลไม้ภาคใต้และภาคเหนือ มีกำหนดจัดงานในเดือน ก.ค.2565 และมีแผนจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ร่วมกับห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศอีก 9 โครงการ ขณะนี้มีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ 2 งาน คือ

1. งาน Taste of Thailand ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 8-28 เม.ย.2565 สินค้ายอดนิยม ได้แก่ มะม่วง มังคุด ทุเรียนและสับปะรด คาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อ 29.7 ล้านบาท

2. เทศกาลอาหารและผลไม้ไทย ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 7-20 เม.ย.2565 ร่วมมือกับ Breeze super ซูปเปอร์มาร์เก็ตไฮเอนด์ เปิดตัวทุเรียนสดพร้อมทานจากไทยขายในไต้หวันครั้งแรก

นายภูสิต กล่าวว่าทั้ง 2 กิจกรรมสามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 2,647 ล้านบาท และช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.2565 จะมีการจัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ “Thai Fruit Golden Months” ส่งเสริมการขายผลไม้ไทยในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ใน 13 เมืองกระจายทั่วประเทศจีน เพื่อส่งเสริมการบริโภคและการส่งออกผลไม้ไทย

สำหรับรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมสำคัญ ได้แก่

1 .การส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทยและธุรกิจบริการอาหารไทยในต่างประเทศ ผ่านการส่งเสริมตราสัญลักษณ์ Thai Select ร่วมกับร้านอาหารและผู้นำเข้าอาหารไทย ดำเนินการแล้ว ใน 16 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น แคนาดา จีน โปแลนด์ เยอรมนี เกาหลีใต้ สาธารณรัฐเช็ก สเปน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส มาเลเซีย สหราชอาณาจักร และอิตาลี

2. การส่งเสริมตลาดธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องสู่ตลาดต่างประเทศ (ภาพยนตร์ เกม แอนิเมชัน คาแรคเตอร์) มีแผนดำเนินการ 4 ประเทศ (สหรัฐฯ ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น) และรูปแบบออนไลน์ โดยได้ดำเนินการแล้ว 4 โครงการ ได้แก่ American Film Market 2021 (Online) , Kidscreen Summit Virtual 2022 กิจกรรม Content Pitching และการเข้าร่วมงาน Global Game Exhibition G-Star 2021 ผู้ประกอบการเข้าร่วม 30 ราย สร้างมูลค่าการค้า 1,181 ล้านบาท

3. การส่งเสริม Wellness Medical Service สุขภาพความงาม ใน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน โดยการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สปา สมุนไพร ในงาน Beauty Expo และ Beauty World Middle East 2021 (รูปแบบ Mirror & Mirror) ผู้ประกอบการเข้าร่วม 29 ราย มูลค่าเจรจาการค้า 62.09 ล้านบาท

4. การบ่มเพาะผู้ประกอบการ เพื่อสร้าง Mindset ด้าน Soft Power ผ่านโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ (From Gen Z to be CEO) และ Salesman จังหวัด Go Intern ดำเนินการพัฒนาผู้ประกอบการและ Salesman จังหวัดยุคใหม่แล้ว 1,652 ราย

5. การส่งเสริมสินค้าสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ไทย ผ่านโครงการส่งเสริมนักออกแบบสินค้า บริการนวัตกรรม และพัฒนาส่งเสริมสินค้า OTOP อยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าและผู้ประกอบการดำเนินการแล้ว 72 ราย มูลค่าการค้า 14.39 ล้านบาท

6. การส่งเสริมแบรนด์ประเทศไทย ผ่านตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark และการส่งเสริมสินค้า ที่มีการออกแบบดี ตลอดจนการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการศักยภาพไทยสู่ตลาดโลกผู้ประกอบการ 95 ราย