‘Softpomz’ ยูทูบเบอร์ที่อยากส่งต่อพลังบวก ผ่านคอนเทนต์ที่ชอบและรับผิดชอบต่อสังคม

ในยุคที่ใครหลายๆคนหันมาสร้างรายได้ด้วยการเป็นผลิตคอนเทนต์ลงในแพลตฟอร์มยูทูบ  หรือมีอาชีพที่เรียกว่ายูทูบเบอร์ กันเป็นจำนวนมาก แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน ณ ตอนนั้นยัง ไม่มีคำว่า ยูทูบเบอร์ และผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักคำว่า Subscribe เลยด้วยซ้ำ คือคำบอกเล่าของ ซอฟ โศภิษฐ์รสกร โชติธนฤทธิ์ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ Softpomz

Softpomz ช่องยูทูบที่มีคน Subscribe กว่า 2.86 ล้านคน จากคาแร็กเตอร์ที่สดใส ติดตลก กับคอนเทนต์ที่หลากหลาย ทั้งรีวิวของเล่น ของแปลก ไอที บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ และคอนเทนต์  แนวคอมเมดี้เอนเทอร์เทนเมนต์ ในช่อง Softpomz มีผู้ติดตามจากทุกเพศทุกวัย ดังนั้นการมีเด็กและเยาวชนมาติดตามทำให้เธอแคร์สิ่งนี้มาก

8 ปี กับการเติบโตบนเส้นทางยูทูบเบอร์ ของ Softpomz ที่สร้างคอนเทนต์จากความชอบส่วนตัว เติบโตเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม บนโลกออนไลน์ที่แปรเปลี่ยนไป โดยเชื่อว่าการ เป็นตัวเองสำคัญที่สุดที่จะเป็นยูทูบเบอร์ และเอาความชอบเป็นจุดเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์ ไม่ใช่แค่เรื่องของยอดวิวและรายได้

8 ปีบนเส้นทางยูทูบเบอร์ ที่เริ่มต้นจากกำแพงเรียบๆอันหนึ่ง  

“ถ้าย้อนกลับไปในปีแรก เราไม่คิดมาก่อนเลยว่า เราจะเดินทางกับสิ่งเหล่านี้ มาถึง 8 ปี ในวันแรกที่เราเริ่มทำยูทูบ สมัยนั้นมันยังไม่มีอาชีพยูทูบเบอร์เลย เราเป็นเพียงแค่คนคนหนึ่งที่ชื่นชอบการทำสื่อ Passion ตอนนั้นมันก็ใหม่สด ซึ่งถามถึงยอดวิวมีคนดูไหม ไม่มีค่ะ ตอนที่ถ่ายมันเป็นมุมหนึ่งของเราในอพาร์ทเมนต์ที่อยู่กับครอบครัว กับกำแพงเรียบๆ  อันหนึ่ง ที่เราแบบ ฉันจะถ่ายแล้วนะ เสียงก็จะเป็นแบบ สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่กับซอฟนะคะ (เสียงเบา) แบบนี้ (หัวเราะ) มันมีความเขินอายสูงมาก แต่มองย้อนกลับไป ภูมิใจนะ เพราะมันคือคลิปแรก ที่ ตัวเองวันนั้น กล้าลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้”

 สารตั้งต้นการผลิตคอนเทนต์คือความชอบ  ไม่ใช่รายได้    

“ซอฟทำยูทูบ โดยที่ไม่มีคำว่ารายได้ ประมาณ 2 ปี เวลาเราทำคอนเทนต์สักคอนเทนต์หนึ่ง มัน เกิดจากการที่เราใช้ชีวิตนี่แหละ แบบออกไปเจอนั่น เจอนี่ เราจะมี What if ในหัวเราเยอะมาก  พอเราปิ๊งแว็บขึ้นมา แล้วเรามีประสบการณ์กับมัน เราจะมีมุมมองที่เราอยากถ่ายทอด การที่จะเริ่มต้นเป็นยูทูบเบอร์ ซอฟว่าตอบได้ง่ายๆ และได้ยินจากทุกที่คือ เริ่มต้นจากความชอบ มันฟังดูง่ายมาก ซึ่งมันเป็นอย่างนี้จริงๆค่ะ  หลายๆคนในปัจจุบันอยากจะผันตัวมาเป็นยูทูบเบอร์ เขาจะมีสารตั้งต้นว่า ฉันอยากมาทำเพราะรายได้ เดือนหนึ่งฉันต้องได้แล้ว  เท่าไหร่ไม่รู้ฉันต้องได้ตังค์ จนเราลืมพาร์ทที่เป็นความสุขของตัวเอง มันจะค่อนข้างต่างกับซอฟที่ตอนแรกเราไม่รู้ว่ามันจะมีรายได้อะไร แต่ว่าเราเริ่มต้นด้วยว่า เราชอบ เราสนุก แล้วเราลุยกับมัน”

การต่อสู้คอนเทนต์ของยูทูบเบอร์แต่ละยุค 

“ในแต่ละช่วงยุคของยูบทูบเนี่ย ยูทูบเบอร์ที่เกิดใหม่ในแต่ละยุค จะมีการต่อสู้ที่ไม่เหมือนกัน ในรูปแบบของคอนเทนต์ ในยุคแรกจะเห็นว่า เห้ย ทำไมคนคัฟเวอร์เพลงเยอะจังเลย คนร้องเพลงคัฟเวอร์เยอะมาก นั่นอาจจะเป็นยุคแรกๆ คนเริ่มมาสนใจการทำวีดีโอบนโลกออนไลน์ ยุคต่อมาเราอาจจะเห็นว่า เอ๊ะ บิวตี้บล็อกเกอร์เยอะจังเลย มีคนมารีวิวเครี่องสำอางเยอะ เราก็จะเห็นว่าคอนเทนต์เรานี้ถูกผลิตออกมาเยอะ พอมันมาแต่ละยุคแต่ละปี มันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าให้เทียบในปัจจุบัน ซอฟมองว่าคอนเทนต์ปัจจุบัน เป็นคอนเทนต์ที่เสพง่าย ครีเอทง่ายๆ และค่อนข้างจะไปได้เร็วขึ้นมากเช่นกัน มันเหมือนโลกหมุนเร็วขึ้น แล้วมันค่อยๆเร็วขึ้น และมันก็เร็วขึ้นมาก”

การเป็นตัวของตัวเอง แก่นของคอนเทนต์ที่แกร่งที่สุดของยูทูบเบอร์

“สมมติว่าซอฟไม่ได้อินดาราเกาหลีเลย แต่อยู่ดีๆเห็นเขาทำเรื่องดาราเกาหลี แล้วมันได้ยอดวิวจังเลย ฉันเลยมาทำบ้าง แต่ซอฟไม่อินอ่ะ ซอฟว่าคนดูดูออก เราว่าผู้บริโภครับรู้ได้ แล้วเรารู้สึกได้ ดังนั้น เราค่อนข้างที่จะเลือกสิ่งที่เราอินแล้วพัฒนาเป็นคอนเทนต์ออกมา ซอฟเคยคุยกับพี่คนหนึ่งที่เป็นยูทูบครีเอเตอร์เหมือนกัน เราชอบแนวคิดที่เขาบอกว่า ในทุกวันนี้ การเป็นตัวของตัวเอง มันฟังดูเลี่ยนๆนะ แต่คุณลองนึกดูสิว่า ถ้าคุณต้องไม่เป็นตัวเอง เพื่อที่จะทำคอนเทนต์เรียกยอด หรืออยากให้มีคนตามเราเยอะๆ คุณจะมีความสุขไหม ถ้าการอัพโหลดหนึ่งคอนเทนต์มันจะมีคนต่อว่า คอมเมนต์ด่าคุณ คุณต้องเสียใจกับการไม่เป็นตัวเอง คุณต้องเสียใจซ้ำสองนะ กับการโดนว่า กับการที่เราเป็นตัวของตัวเองอย่างน้อย เรามีพาร์ทที่เรามีความสุขนะ ว่าอย่างน้อยฉันไม่ได้ฝืนตัวเอง ดังนั้นถ้าเราอยากเป็นยูทูบเบอร์ เป็นตัวของตัวเองเนี่ย ดีที่สุด แต่ก็จะมีคำถามอีก แล้วอะไรคือตัวของตัวเองอ่ะพี่ ซอฟว่าสิ่งเหล่านี้มันคือการตกผลึก แล้วค่อยๆใช้ชีวิต”

จากความชอบส่วนตัว เติบโตเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม

“มนุษย์เราเริ่มสนแต่ยอดตัวเลขแล้ว ไม่ได้สนว่าแล้วคุณค่าของมันข้างใน มันจะส่งต่ออะไรกับสังคมบ้าง อย่างซอฟทำมาแรกๆ เราทำมาด้วยความชอบ พอเราชอบมาถึงจุดหนึ่ง จากความชอบมันกลายเป็นความรับผิดชอบต่อตัวเราเองก่อน พอเรารับผิดชอบต่อตัวเองแล้ว อีกจุดหนึ่งมา เราต้องรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เริ่มมีกระแสที่แบบว่า เออ คุณเป็นบุคคลที่คนดูคุณนะ จะมีพฤติกรรมทำตามนะ มันผ่านการคิดเยอะขึ้น  เพราะเรามองว่า สิ่งที่เราทำไป มันส่งผลกับสังคม ซึ่งการทำต่างๆ เพื่อเรียกยอดต่างๆตรงนั้น ซอฟว่าละเอียดอ่อนในระยะยาวๆ เราเอาสนุกในวันนี้ สมมุติว่า 1 ล้านวิวที่ดูตรงนั้น มีคนนึกอยากสนุกกับเราแบบนี้ เขาไม่ได้แยกแยะว่าควรหรือไม่ควร แล้วมันก็จะเป็นวงจรแบบนี้ไปอีกเยอะมากๆ นั่นแหละคือสิ่งที่ครีเอเตอร์คิดคอนเทนต์อะไรออกมา มันจะส่งผลต่อสังคมในอนาคตแน่ๆ เราก็เลยค่อนข้างจะยึดมั่นประมาณหนึ่ง ว่าโอเค เราอยากจะทำคอนเทนต์ที่มันมีคุณภาพในเชิงที่ไม่ใช่ว่าเชิงกล้องฉันแพงนะ แต่คุณภาพในเชิงที่เป็นคอนเทนต์ คนทุกเพศทุกวัยในสังคมเราดูได้ แล้วมันเอฟเฟคสิ่งดีๆในสังคม เราอยากจะทำคอนเทนต์แบบนั้น”

“หนูอยากโตไปเป็นพี่ซอฟ พี่เป็นไอดอลของหนู”  ประโยคของแฟนคลับเยาวชนในช่องยูทูบ ที่เปลี่ยนแปลงความคิดของซอฟ ว่า สิ่งที่ทำอยู่ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองแล้ว เรามีความสุขคนเดียวไม่ได้แล้ว สิ่งที่เราทำ มันต้องมีอะไรดีๆ ให้กับสังคม

พลังบวกที่อยากส่งต่อของ Softpomz    

Softpomz   ตัดสินใจมาร่วมโปรเจกต์ The Sound Of Happiness กับทาง UNICEF โดยจะเข้ามาแชร์เรื่องราวในชีวิต ที่เคยถูกโดนบูลลี่ ปัญหาในชีวิตต่างๆ เธอผ่านมันมาได้ได้อย่างไร   เห็นว่า Softpomz สดใสร่าเริงแบบนี้ เธอผ่านอะไรมาบ้าง เล่าเพื่อแชร์ให้กับเด็กและเยาวชน เพราะมองว่ากลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มที่เธออยากจะสนับสนุน

“การที่เรารู้สึกเรามีความสุขอยู่คนเดียว ถ้าเราไม่ส่งต่อ เราก็จะแฮปปี้อยู่คนเดียว โลกข้างนอกเราก็จะเห็นว่ามันเทาๆ แต่การที่ ณ วันนี้ที่ซอฟสามารถส่งต่อพลังงานอะไรบางอย่าง  ให้กับกลุ่มคนที่ดูซอฟอยู่ได้ เราเชื่อลึกๆแล้วกันเนาะ ว่ามันน่าจะส่งพลังอะไรบางอย่างถึงคนที่ฟังอยู่ คนที่เขาเจอปัญหาเหมือนเรา สู้ๆ นะ เรารู้ว่าคำพูดนี้ใครๆ ก็พูดได้ แต่นี่เราพูดจากใจจริงๆ”

 ฟังเรื่องราว The Sound of Happiness ฟัง x เล่า = ความสุข ของ Softpomz ได้ที่ JOOX : The Sound of Happiness