SHARE

คัดลอกแล้ว

กองทัพบกเพิ่งปลื้มใจที่การ ‘ตรวจเลือกทหารกองประจำการ ประจำปี 2563’ ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคมที่ผ่านมา มีชายไทยสมัครเข้าเป็นทหารถึง 41,406 นาย ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา

แต่จากกรณีที่ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ ‘เมย’ อดีตนักเรียนเตรียมทหารซึ่งเสียชีวิตในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 จากการถูกรุ่นพี่สั่งธำรงวินัยหลายวาระ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Supicha M Tanyakan เป็นภาพจดหมายแจ้งให้นายภคพงศ์ ไปชี้แจงต่อสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ว่า เหตุใดจึงไม่ไปแสดงตน เพื่อเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ทั้งที่ นายภคพงศ์เสียชีวิตมาเกือบ 3 ปีแล้ว

เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงทำให้เกิดคำถามต่อระบบของหน่วยราชการไทย ว่า เหตุใดจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเช่นนี้

(ที่มา FB: Supicha M Tanyakan)

พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์กับ workpointTODAY ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นกับนายภคพงศ์ว่า เกิดจากข้อมูลทะเบียนราษฎร์กับทะเบียนทหารไม่เชื่อมโยงกัน โดยโฆษกกองทัพบกชี้แจงว่ากรณีที่เกิดขึ้นกองทัพบกใช้วิธีปฏิบัติในระบบปกติ กล่าวคือเมื่อชายไทยอายุครบ 17 ปี จะถูกขึ้นทะเบียนกับฝ่ายทหาร ดังนั้นนายภคพงศ์จึงมีชื่ออยู่ในทะเบียนทหาร แต่เมื่อเกิดกรณีการเสียชีวิต ข้อมูลการเสียชีวิตจะแจ้งไปที่เฉพาะทะเบียนราษฎร์ของกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น ไม่ได้แจ้งมาที่ทะเบียนของฝ่ายทหารด้วย

โฆษกกองทัพบก ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตามปกติแล้วชายไทยอายุ 17-21 ปี ที่ถูกขึ้นทะเบียนกับฝ่ายทหาร ถ้าไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ ที่จะได้รับการยกเว้น เช่น เรียนรด. หรือเป็นนักเรียนทหาร ก็จะมีหนังสือเชิญให้มารับหมายเกณฑ์ทหารทุกคน แต่ถ้าหากไม่มาตามหมายเรียก ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการสอบถามถึงเหตุผลที่ไม่มาตามหมายเรียก โดยในกรณีที่ผู้ถูกหมายเรียกเสียชีวิตแล้ว หรือต้องโทษดำเนินคดีอยู่ทางครอบครัวหรือญาติก็จะต้องมาแจ้งกับสัสดีอำเภอ หรือในกรณีที่เรียน รด. อยู่ หรือเป็นนักเรียนทหารอยู่ แต่บัญชีชื่อตกหล่นก็สามารถมาชี้แจงได้เช่นกัน

ทั้งนี้ พันเอกวินธัย ระบุด้วยว่า การออกจดหมายเรียกเช่นนี้ ถือเป็นแนวทางปกติ เนื่องจากทางสัสดีต้องการสอบสวนจริงๆ ว่าบุคคลดังกล่าวไม่มารับหมายเรียกเกณฑ์ทหารเพราะอะไร

(แฟ้มภาพ : พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก)

“ก็ต้องขออภัยเรื่องนี้ บังเอิญกระทบกับความรู้สึกก็ต้องขออภัยด้วย ส่วนแนวทางต่อไปจะมีการปรับปรุงเชื่อมโยงข้อมูลกับฝ่ายทะเบียนราษฎร์ของมหาดไทยไหม ก็ต้องไปอยู่ในขั้นตอน เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาต่อไป ถ้าสะดวกขึ้นก็สามารถปรับปรุงได้”

โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีของนายภคพงศ์ทางสัสดีจังหวัดชลบุรีได้รับทราบเหตุผลจากสังคมแล้ว และอาจใช้หลักเกณฑ์พิเศษโดยการประสานกับทางอำเภอเพื่อขอใบมรณบัตรของนายภคพงศ์ เพื่อจำหน่ายชื่อนายภคพงศ์ออกจากบัญชีเกณฑ์ทหาร เพื่อให้ครอบครัวไม่ต้องนำหลักฐานอะไรมาให้ จะได้ไม่ต้องไปกระทบกระเทือนต่อความรู้สึก  อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพบกก็ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการส่งจดหมายเรียกบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วมาเกณฑ์ทหารเช่นนี้ เพราะเป็นระบบที่สัสดีใช้มาโดยตลอด

ทีมข่าว workpointTODAY ได้สอบถามโฆษกกองทัพบกว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่กรณีนี้จะเกิดจากผู้ไม่หวังดีกับกองทัพทำขึ้น ซึ่งทาง พันเอกวินธัย ยืนยันว่า ไม่ใช่การวางยา และยอมรับว่าองค์กรทหารเป็นที่จับจ้องอยู่แล้ว โดยจะชี้แจงบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง อะไรที่ไม่เหมาะสมเราก็ต้องปรับปรุง

(แฟ้มภาพ / ทหารกองประจำการ รุ่นปี 2561 ผลัดที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก)

สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหารโดยตรงนั้น คือหน่วยงานที่เรียกว่า สัสดี ในสังกัดกระทรวงกลาโหม ที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มีภารกิจดำเนินการเพื่อให้ได้ชายฉกรรจ์ที่เป็นคนสัญชาติไทยมาเป็นทหารเพื่อป้องกันประเทศชาติ ด้วยความสมัครใจและยินยอมเสียสละ แม้กระทั่งชีวิตเลือดเนื้อเพื่อปกป้องเอกราชของชาติทั้งในยามสงบศึกและในยามสงคราม

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวประเด็นความผิดพลาดในครั้งนี้ ว่าเกิดจากเมื่อนายภคพงศ์ เสียชีวิตเมื่อปี 2560 ขณะนั้นอายุยังไม่ถึง 18 ปี ชื่อของนายภคพงศ์จึงยังอยู่ในทะเบียนทหารกองเกินที่บ้านเกิดใน จ.ชลบุรี ต่อมาเมื่อครอบครัวได้มีการแจ้งการเสียชีวิตที่ จ.นครนายก ซึ่งเป็นที่อยู่ที่นายภคพงศ์ย้ายมาระหว่างเรียนเตรียมทหาร ทำให้ทะเบียนทหารกองเกินที่จังหวัดชลบุรียังมีข้อมูลในส่วนนี้อยู่

ล่าสุดทางด้านครอบครัว ‘ตัญกาญจน์’ ได้เปิดแถลงข่าว โดย น.ส.สุพิชา พี่สาวของนายภคพงศ์ ระบุว่า วันนี้สัสดีอำเภอเมืองชลบุรีได้มาขอโทษครอบครัวที่ออกจดหมายเรียกให้น้องชายไปเกณฑ์ทหารพร้อมชี้แจงว่า ไม่ได้ตั้งใจ โดยทางสัสดียอมรับว่าเป็นความผิดของตนเองที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดี  ขณะที่ น.ส.สุพิชา มองว่า ‘การเกณฑ์ทหาร’ ควรมีหนังสือส่งมาก่อนว่าบุคคลใดต้องไปเกณฑ์ทหาร แล้วถ้าไม่ไป อาจจะออกหนังสือเรียกตามที่ตนได้ลงเฟซบุ๊กมาให้ทางครอบครัวอีกครั้ง ซึ่งกรณีของน้องชาย สังกัดอยู่ที่โรงเรียนเตรียมทหาร ‘การแจ้งตาย’ ทางโรงเรียนเตรียมทหารเป็นผู้ดำเนินการโดยไม่ได้ให้ทางครอบครัวดำเนินการ

“มันก็เหมือนตลกร้าย เหมือนตอกย้ำเหมือนกันว่าคุณอยากได้อะไรจากเรา แต่คิดว่าสัสดีคงไม่ได้มีเจตนาทำร้ายจิตใจครอบครัวเรา” พี่สาวของนายภัคพงศ์กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า