คนพร้อมบิน แต่คนญี่ปุ่นบางส่วนยังไม่พร้อม ยังเข็ดกับนักท่องเที่ยวล้นเมือง

ประเทศอื่นๆ ทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่ญี่ปุ่นยังสงวนท่าที แม้คนจะรอคอยการเปิดประเทศของญี่ปุ่นอย่างใจจดใจจ่อ เรียกได้ว่า พร้อมบินมาก

และล่าสุด อาจเป็นข่าวดีของนักท่องเที่ยวเมื่อ นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ประกาศว่า ญี่ปุ่นจะ ‘ผ่อนคลายการควบคุมชายแดน’ ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

โดยทั่วไปแล้ว ประชาชนมักเฉลิมฉลองจากการผ่อนคลายมาตรการข้ามชายแดน แต่สำหรับบางคนในญี่ปุ่น ยังอยากปิดประเทศเหมือนเดิม 

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น TODAY Bizview พาไปหาคำตอบกัน 

[ แม้จะเดินทางไปต่างประเทศได้แล้ว แต่คนญี่ปุ่นยังไม่ต้องการ ]

ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 คนในท้องถิ่น ก็ชอบเที่ยวในประเทศเป็นประจำอยู่แล้ว โดยการท่องเที่ยวภายในประเทศมีมูลค่ารวม 21.9 ล้านล้านเยน หรือ 1.67 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2019 

Dai Miyamoto ผู้ก่อตั้งบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว Japan Localized บอกว่า “แม้ว่าคนญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศได้แล้ว แต่หลายคนยังไม่อยากเดินทางไปต่างประเทศ และเลือกที่จะเดินทางภายในประเทศแทน”

Izumi Mikami กรรมการบริหารอาวุโสของ Japan Space Systems ยังเห็นไปในทางเดียวกันว่า เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นเมื่อมีนักท่องเที่ยวน้อยลง โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวที่เคยมีผู้คนพลุกพล่าน

จากการปิดประเทศของญี่ปุ่น ทำให้ประชาชนบางคนใช้โอกาสนี้ ออกไปข้างนอกบ้านหลังจากใช้เวลาอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน เพราะหลายๆ คนเริ่มที่จะไม่กลัวโควิด-19 ไปมากกว่านี้แล้ว

นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นยังมีโอกาสผจญภัยไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ไปยังสถานที่ที่ปกติไม่เคยไป 

[ พฤติกรรมใหม่ คนญี่ปุ่นเน้นเที่ยวแบบตั้งแคมป์มากขึ้น ]

ข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวแห่งชาติญี่ปุ่น พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดลงจากเกือบ 32 ล้านคนในปี 2019 เหลือเพียง 250,000 คนในปี 2021 จึงทำให้บริษัททัวร์ต้องปรับตัว ออกแบบโปรแกรมเที่ยวใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความสนใจของคนในท้องถิ่น

Miyamoto เน้นย้ำด้วยว่า นักเดินทางชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ หลีกเลี่ยงการเที่ยวเมืองใหญ่ และชอบสัมผัสประสบการณ์กลางแจ้งที่พวกเขาสามารถค้นพบด้วย ‘การเดินทางเท้า’ 

Lee Xian Jie หัวหน้านักพัฒนาของบริษัททัวร์ Craft Tabby กล่าวว่า “ตอนนี้ผู้คนทั่วประเทศญี่ปุ่นใช้เวลากับการตั้งแคมป์ และเข้าสปา ออนเซ็นมากขึ้น ทำให้การตั้งแคมป์ได้รับความสนใจมากขึ้น การเช่าคาราวานและการขายอุปกรณ์เอาท์ดอร์ก็เพิ่มขึ้น เพราะมีคนไปข้างนอกมากขึ้น”

ออนเซ็นระดับหรูจะได้รับความนิยมในหมู่หนุ่มสาวมากขึ้น แต่ออนเซ็นแบบดั้งเดิมกำลังประสบปัญหา เพราะผู้สูงอายุหลายๆ คนไม่กล้าที่จะออกจากบ้าน เนื่องจากกลัวว่าตนเองอาจจะได้รับเชื้อโควิดด้วย

ก่อนหน้านี้ Craft Tabby เคยจัดทัวร์เดินและปั่นจักรยานในเกียวโตในรูปแบบออนไลน์เมื่อเกิดโรคระบาด แต่เมื่อประเทศต่างๆ เปิดพรมแดนอีกครั้ง ทัวร์ออนไลน์จึงได้รับความนิยมน้อยลงจนแทบไม่เหลือความสนใจแล้ว

เพราะตอนนี้ นักท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนพฤติกรรม และเริ่มมองหากิจกรรมที่มีความ ‘เฉพาะกลุ่ม’ มากขึ้น เช่น การท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบท ที่ไม่มีประชากรหนาแน่น จึงทำให้บริษัททัวร์ต้องจัดกิจกรรมท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อให้ผู้คนสามารถสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ได้

[ คนญี่ปุ่นบางส่วนยังเข็ดกับนักท่องเที่ยวล้นเมือง ]

ตามรายงานของสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 32 ล้านคนเข้ามาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในปี 2019 เพิ่มขึ้นมา 6.8 ล้านคนเมื่อเทียบกับตัวเลขของสิบปีก่อน 

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เกิดข้อกังวลของคนในท้องถิ่น อย่างเช่น กรุงเกียวโตที่เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรม แต่กลับต้องต่อสู้กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เยอะเกินไป

ตอนนี้ประชาชนในเกียวโตมีความรู้สึกว่า ‘ความเงียบสงบกลับมาแล้ว’ ความรู้สึกของเกียวโตใน 20 ปีที่แล้วมันกลับมาแล้ว จากก่อนหน้านี้มักมีนักท่องเที่ยวต่างชาติพูดเสียงดัง และไม่สุภาพกับคนในท้องถิ่น สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก

แต่ในอีกมุมหนึ่ง การปิดประเทศของญี่ปุ่นส่งผลกระทบต่อเมืองเกียวโตมาก และทำให้ตอนนี้เกียวโตกำลังเผชิญกับการเสี่ยง ‘ล้มละลาย’ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปถึง 99.2% จากระดับก่อนเกิดโรคระบาด ทำให้เกียวโตขาดรายได้

นอกจากนี้ หนี้ที่สะสมมานานของเมืองเกียวโตมาจาก ‘รถไฟสายโทไซ’ ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดินที่มีมาตั้งแต่ปี 1997 ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวใช้ขนส่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่การก่อสร้างที่ใช้งบไปมากกว่า 5.5 แสนล้านเยน ยังไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ 

การประกาศเปิดพรหมแดนของนายกรัฐมนตรีคิชิดะ อาจไม่เป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับประชากรชาวญี่ปุ่นบางส่วน

จากผลสำรวจของสถานีโทรทัศน์ NHK บอกว่า คนญี่ปุ่นมากกว่า 65% เห็นด้วยกับการปิดพรหมแดน หรือเชื่อว่ามาตรการควรมีความรัดกลุมให้มากกว่านี้ เช่น ให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลายครั้ง และต้องจองทัวร์แบบแพ็คเก็จเพื่อเข้าญี่ปุ่น 

Shintaro Okuno หุ้นส่วนและประธานบริษัท Bain & Company Japan พูดถึงสาเหตุที่ญี่ปุ่นปิดประเทศมานานว่า “การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติมีส่วนช่วยดัน GDP โดยรวมของญี่ปุ่นไม่ถึง 5% ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่น ตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญให้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ ก่อน”

Shion Ichikawa พนักงานบริหารความเสี่ยงของบริษัทอินเทอร์เน็ตเผยว่า “การตัดสินใจเปิดพรหมแดนของรัฐบาลในครั้งนี้ ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นคงไม่ชอบใจ เพราะพวกเขามักคิดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะนำเชื้อโควิด-19 เข้ามา

และเป็นที่เข้าใจกันในญี่ปุ่นว่า การเป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุเยอะ นักการเมืองต้องกระชับมาตรการการข้ามพรมแดน เพื่อปกป้องพวกเขาทั้งทางร่างกายและจิตใจ”

นอกจากนี้ ข้อมูลจากองค์กรวิจัย PRB ระบุว่า ญี่ปุ่นมีประชากรผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปี) เกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และยังมีจำนวนผู้สูงอายุเปอร์เซ็นต์สูงที่สุดในโลก ทำให้ญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านของผู้สูงอายุ 

เมื่อการระบาดของโควิดเคยถึงจุดสูงสุด คนญี่ปุ่นระวังตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้คนที่กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดที่ท้องถิ่นของตน บางสถานที่ถึงขึ้นป้ายตามสวนสาธารณะ และสถานที่ท่องเที่ยวว่า ‘ห้ามมีรถจากนอกเมืองวาคายามะ’ เพราะกลัวว่าคนนอกพื้นที่จะเชื้อโควิดเข้ามา 

อย่างไรก็ตาม คนที่อาศัยอยู่ในเมืองอาจรู้สึกแตกต่างออกไป บางคนรู้สึกว่า ญี่ปุ่นเข้มงวดและอนุรักษ์นิยมมากเกินไป ในการควบคุมโควิด-19

คนในเมืองส่วนใหญ่พร้อมที่จะก้าวต่อไป และรู้สึกว่า ถึงเวลาที่จะให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาได้แล้ว เพื่อให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นฟื้นตัวได้ และไม่เห็นด้วยว่าญี่ปุ่นต้องมีมาตรการที่เข้มขึ้น ญี่ปุ่นต้อง ‘เริ่มใช้ชีวิตตามปกติ’ แล้ว

ที่มา : CNBC, Workpoint TODAY