รู้จัก ‘ซมโปะ’ เจ้าของประกัน Subscription โมเดล Netflix เจ้าแรกเจ้าเดียวในไทย

‘ซมโปะ ประกันภัย’ เปิดตัวประกัน Subscription สำหรับประกันรถยนต์ ‘ซมโปะ ตามใจ’ โมเดลเดียวกับ Netflix ให้อิสระ ไม่ผูกมัด ซื้อเมื่อต้องการ เริ่มต้น 69 บาทต่อวัน

‘ผศ.ดร.ชญณา ศิริภิรมย์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางปีนี้ (2566) บริษัทฯ เปิดตัวประกัน ‘ซมโปะ ตามใจ’ ซึ่งเป็นประกันรถยนต์ที่ใช้โมเดลจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน (Subscription)

คอนเซ็ปต์เดียวกันกับประกันเดินทาง กล่าวคือ เราสามารถซื้อประกันในยามที่เราต้องการ (On Demand) ยกตัวอย่างเช่น ช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้าไม่ได้ใช้รถ ลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์ กลับมาเมื่อไหร่ค่อยซื้อก็ได้

ทั้งนี้ เริ่มต้นเพียง 69 บาทต่อวันเท่านั้น สมัครก่อนอย่างน้อย 1 วันก่อนใช้รถยนต์ ถือเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยที่ให้ลูกค้าทำประกันภัยรถยนต์ได้อย่างอิสระ ไม่ผูกมัด เหมือนโมเดล Netflix

ในวันเดียวกัน ซมโปะเปิดเผยถึงภาพรวมตลาดประกันภัย โดยพบว่า ประกันเดินทางเป็นตัวที่กลับมาเติบโตโดดเด่น โดยเติบโตดีกว่าก่อนโควิด-19 แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากที่ลูกค้าอัดอั้นเรื่องการเดินทาง ขณะที่ประเทศยอดนิยม แน่นอนว่าญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์

ทั้งนี้ ประเทศที่ลูกค้าของซมโปะฯ เดินทางไปมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น 90% ไต้หวัน 2% ฮ่องกง 2% และอื่นๆ 6%

เมื่อถามถึงยอดเคลมประกันในช่วงนี้ ซีอีโอของซมโปะฯ กล่าวว่า ยอดเคลมประกันมีบ้างประปราย ทั้งการเคลมประกันกรณีเจ็บไข้ได้ป่วย และกรณีการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากคนรักษาสุขภาพ และใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์หลังโควิด-19

สำหรับภาพการแข่งขัน แม้ภาพรวมธุรกิจประกันจะไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่จุดเด่นของซมโปะฯ คือ เป็นบริษัทประกันที่มีบริษัทแม่สัญชาติญี่ปุ่น ทำให้ลูกค้าวางใจเมื่อต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ด้วยเครือข่ายของซมโปะฯ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯ เริ่มทำการตลาดมากขึ้นผ่านแคมเปญ ‘แดงๆ กลมๆ ให้นึกถึงซมโปะ ประกันภัย’ เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) ในกลุ่มลูกค้าเพิ่มเติม

ในส่วนของพอร์ตประกันภัยของซมโปะ แบ่งเป็น ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk – IAR Insurance) ของลูกค้าญี่ปุ่น 47% ประกันภัยรถยนต์ 25% ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ 4% และอื่นๆ 24%

สำหรับพอร์ตลูกค้ารายย่อย ซึ่งเป็นลูกค้าชาวไทย พบว่าการเติบโตค่อนข้างดี ได้แก่ ประกันเดินทาง เติบโต 60% จาก 8 ล้านบาท มาอยู่ที่ 60 ล้านบาท ส่วนประกันรถยนต์ เติบโต 30% จาก 800 มาอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความตั้งใจของบริษัทฯ ที่เน้นมาเติบโตลูกค้ารายย่อยชาวไทยมากขึ้น อีกส่วนมาจากปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ เศรษฐกิจไทยขยายตัว คนไทยตื่นตัวเรื่องประกันมากขึ้น และเทคโนโลยีเอื้อให้คนชำระเงินง่ายขึ้น

เมื่อถามถึงเทรนด์การเติบโตปีหน้า (2567) ซมโปะฯ คาดว่าธุรกิจจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือเติบโตกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับตลาด โดยหลักมาจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยชาวไทย และพอร์ตประกันภัยรถยนต์ที่มูลค่าสูงเป็นหลัก

‘เราคาดว่าเบี้ยปีนี้จะปิดที่ 4,000 ล้านบาทตามเป้า ขณะที่ปีหน้า คาดว่าจะเติบโต 4,500 บาท หรือราว 10% โจทย์ของเราคือ ขยายฐานลูกค้าคนไทย ดูแลคนไทย ด้วยหัวใจญี่ปุ่น’