กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุป สถานการณ์คลื่นลมแรงในพื้นที่ภาคใต้ วันนี้ (16 เม.ย. 66)
[จังหวัดนครศรีธรรมราช]
– อำเภอปากพนัง เกิดเหตุเรือล่ม 7 ลำไม่สามารถติดต่อได้ 2 ลำ ช่วยเหลือลูกเรือได้แล้ว 42 คน ผู้เสียชีวิต 1 คน อยู่ระหว่างการค้นหา 8 คน
– อำเภอท่าศาลา มีเรือออกจากฝั่ง 5 ลำ ขึ้นฝั่งแล้ว 4 ลำ ไม่สามารถติดต่อได้ 1 ลำ
– อำเภอสิชล เกิดเหตุเรือล่ม 1 ลำ ช่วยเหลือลูกเรือได้แล้ว 3 คน อยู่ระหว่างค้นหา 1 คน
นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งศูนย์บัญชาการกรณีเหตุเรือล่ม จำนวน 2 จุด ณ แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง และที่ อำเภอสิชล มีนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ร่วมปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม
[จังหวัดสุราษฎร์ธานี]
เวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (16 เม.ย. 66) มีเหตุเรือเฟอร์รี่ของบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ตะแคงจมครึ่งลำ บริเวณท่าเทียบเรือ ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็น ‘เรือราชา 10’ รับผู้โดยสารมาจากเกาะสมุยและเข้าจอดเทียบท่าส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเกิดคลื่นลมแรงซัดตัวเรือกระแทกกับท่าเทียบเรือจนทำให้เรือตะแคงและน้ำไหลเข้าในตัวเรือ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทางท่าเรือราชา ได้ปิดระบบในเรือและได้นำแพล้อมเรือเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันแล้ว
[กองทัพเรือภาค 2 ช่วยค้นหาผู้สูญหาย]
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับรายงานเหตุการณ์คลื่นลมทะเลแรงฝั่งอ่าวไทย ส่งผลให้เรือประมงจำนวนหลายสิบลำอับปางในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งที่ อำเภอปากพนัง อำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และอำเภอขนอม
ขณะนี้มีทั้งขึ้นฝั่งปลอดภัยแล้ว ยังติดต่อไม่ได้ ยังไม่ทราบจำนวนผู้สูญหาย ซึ่งอยู่ระหว่างการค้นหา โดยนายกฯ ได้แสดงความเป็นห่วง สั่งการให้ตน ซึ่งอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชพอดี เข้าไปดูติดตามสถานการณ์และเร่งประสานให้การช่วยเหลือ
โดยรายงานการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม ยังอยู่ในทะเลนอกชายฝั่ง แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง พบเรือติดอยู่กลางทะเล ขาดการติดต่อแล้ว จำนวน 2 ลำ ลูกเรือ 5 คน ติดต่อได้ แต่เข้าฝั่งไม่ได้ จำนวน 3 ลำ ลูกเรือ 6 คน
ขณะที่ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการ ประสาน พลเรือโทจรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บังคับการกองทัพเรือภาค 2 ขอสนับสนุนเรือตรวจการ จำนวน 2 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งขณะนี้เดินทางออกมาจากเกาะสมุยแล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถึงที่หมาย
นอกจากนี้ ยังประสาน พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ สั่งการให้ บน.7 สุราษฎร์ธานี สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาทางอากาศในการระบุเป้าหมายและสนับสนุนชูชีพ
ภาพจาก : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย