กมธ.ปราบโกง สภาฯ เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องแจงมาตรการดูแลนักโทษการเมือง 22 เม.ย. 64

กมธ.ปราบโกง สภาฯ เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องแจงมาตรการดูแลนักโทษการเมือง 22 เม.ย. 64 ด้านกรมพินิจฯ ออกมาตรการขั้นสูงสุดสกัดโควิด ห้ามเจ้าหน้าที่ไปพื้นที่เสี่ยง ขู่ฟันวินัยหากพบปกปิดไทม์ไลน์ จนถึง 15 พ.ค. 64

วันที่ 21 เม.ย. 2564 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในวันที่ 22 เม.ย. 2564 กรรมาธิการฯ จะตรวจสอบกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนถึงความปลอดภัยในพื้นที่เรือนจำพิเศษของนักโทษคดีการเมือง โดยเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร  นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีราชทัณฑ์ มาชี้แจง นอกจากนี้ ในเดือน ส.ค. 2564 กรรมาธิการฯ จะสรุปผลงานการตรวจสอบในรอบ 2 ปีด้วย ซึ่งมีหลายเรื่องที่คณะทำงานตรวจสอบแล้วเสร็จและรอสรุป หลายเรื่องที่นำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯ คำนึงถึงมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 โดยจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และจำกัดคนเข้าร่วมในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะพิจารณา

ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กำชับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ปฏิบัติตาม 5 ข้อ ดังนี้ 1.ให้เจ้าหน้าที่งดออกนอกพื้นที่หรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงทุกกรณี ยกเว้นมีความจำเป็นเร่งด่วน 2.ให้หน่วยงานจัดซื้อและจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามความเหมาะสม และแจ้งผลการดำเนินงานมายังกรมฯ 3.บุคคลภายนอกงดเว้นการเข้าทำกิจกรรมในศูนย์ฝึกและอบรมฯ ทุกกรณี รวมถึงการจัดส่งอาหารสด หรือห้ามมิให้บุคคลภายนอก หรือผู้ทำหน้าที่ฝึกสอนเด็กและเยาวชนเข้ามาภายในเขตควบคุมด้วย  4.เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ที่ไม่มีภาระหน้าที่ภายในสถานควบคุม ให้งดเข้าสถานควบคุมทุกกรณี และ5.เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในสถานที่ควบคุมต้องทำรายงานไทม์ไลน์ประจำวันเป็นรายชั่วโมง ตามแบบรายงานที่กรมฯ กำหนด หากเจ้าหน้าที่จงใจปกปิดไทม์ไลน์ของตนเอง จะใช้มาตรการลงโทษขั้นเด็ดขาด ทั้งนี้ ให้ผู้อำนวยการมีอำนาจในการบริหารจัดการบุคลากรอย่างเต็มที่ หากต้องมีการกักตัวเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังโรค หรือดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่ฝ่าฝืน มีกำหนด 30 วัน ตั้งแต่ 16 เม.ย. – 15 พ.ค. 2564