‘สเปน-บราซิล’ ยืนยันพบผู้เสียชีวิตรายแรกจาก ‘ฝีดาษลิง’ นอกทวีปแอฟริกา

สเปนและบราซิลยืนยันพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ซึ่งคาดว่าเชื่อมโยงกับการระบาดทั่วโลกในช่วงเดือนพ.ค. นับเป็นการพบผู้เสียชีวิตนอกทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรก

ผู้เสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิงรายแรกนอกทวีปแอฟริกาที่ได้รับการรายงานเป็นชายวัย 41 ปีในบราซิล และหลังจากนั้นไม่นาน สเปนก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าพบผู้เสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิงรายแรกในประเทศเช่นเดียวกัน

จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขบราซิล ผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวอยู่ในนครเบโลโอรีซอนชี เมืองหลวงของรัฐมีนัสเชไรส์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้สภาวะร่างกายของผู้ป่วยไม่มีสภาพแย่ลงหลังติดเชื้อ

ทั้งนี้ บราซิลมีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงที่ได้รับการยืนยันแล้ว 1,066 ราย และผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัส 513 ราย โดยในจำนวนนี้มี 98% เป็นผู้ติดเชื้อเพศชายที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน

ขณะที่สเปนซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในประเทศที่ได้รับการยืนยันแล้ว 3,750 ราย โดยมี 120 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 3.2% รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมายืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังจากมีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วทั่วโลกมากกว่า 16,000 ราย ใน 75 ประเทศ และผู้ป่วยเสียชีวิต 5 ราย โดยทั้งหมดอยู่ในทวีปแอฟริกา

ต่อมาในวันพุธ (27 ก.ค.) นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า WHO ได้รับรายงานยืนยันจำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง เข้ามาแล้วกว่า 18,000 ราย จาก 78 ประเทศ โดยกว่า 70% ของผู้ป่วยมาจากภูมิภาคยุโรป และ 25% มาจากภูมิภาคอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นจากตอนที่ WHO ประกาศให้โลกฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ราว 2,000 ราย

แม้ว่าผู้ป่วยถึง 98% จะอยู่ในกลุ่มผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน แต่ทีโดรสย้ำว่า ใครก็ตามที่สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็สามารถรับเชื้อได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการที่เชื้อจะแพร่ไปสู่กลุ่มเปราะบาง รวมถึงเด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ WHO ยังไม่แนะนำให้ใช้วิธีกระจายฉีดวัคซีนในวงกว้าง โดยยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพและจำนวนโดสที่ต้องฉีด แต่แนะนำให้ฉีดวัคซีนแบบเฉพาะเจาะจงไปในกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรสาธารณสุข ผู้ที่ปฏิบัติงานในห้องแล็บ และผู้ที่มีคู่นอนหลายคน 

โดยวัคซีนโรคฝีดาษ (Smallpox) ชนิด MVA-BN ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงในสหรัฐฯ แคนาดา และสหภาพยุโรปนั้น ปัจจุบันทั่วโลกมีอยู่ราวๆ 16 ล้านโดส แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการจัดแบ่งเข้าไปในขวด ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการทำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

ที่มา 

https://www.bbc.com/news/health-62350022

https://www.aljazeera.com/news/2022/7/30/spain-brazil-report-first-monkeypox-deaths-outside-africa