SHARE

คัดลอกแล้ว

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2008 หากเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกัน เหตุการณ์นี้น่าจะใกล้เคียงหรือคล้ายคลึงกับเหตุการณ์โรคระบาดในปี 1918 ที่อยู่จักกันในวงกว้างในชื่อ ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) คำถามคือเราได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดในขณะนั้นบ้าง ? บทความจาก The Conversation.com ชื่อว่า Coronavirus and Spanish flu: economic lessons to learn from the last truly global pandemic เขียนโดย Misha Ketchell พูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้อย่างน่าสนใจ

ไข้หวัดใหญ่สเปนคือโรคระบาดที่ส่งผลกระทบทั่วโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิตเท่าที่สามารถรับรู้ได้ราว 20 ล้านคน แต่ที่คาดการณ์จริง คาดว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 เสียอีก จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไข้หวัดใหญ่สเปนอยู่ที่ประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อ แต่สาเหตุของการเสียชีวิตพบว่ามาจากปอดอักเสบมากกว่าอาการไข้ ซึ่งการระบาดของโรคเกิดขึ้นหลายระลอกและจะมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาด

ส่วนหนึ่งของสาเหตุการแพร่ระบาดในวงกว้างเป็นเพราะหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติได้ไม่นาน เหล่าทหารที่ติดเชื้อกลับนำเชื้อไปแพร่ให้คนในพื้นที่ด้วย ซึ่งการติดเชื้อนั้นเกิดขึ้นระหว่างทาง ประกอบกับผู้คนเหนื่อยล้าและร่างกายอ่อนแอจากสงครามที่ยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี เหตุการณ์การระบาดทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องมาจากรัฐบาลไม่มีความโปร่งใสและขาดความร่วมมือด้านนโยบายและยังมีการเซ็นเซอร์สื่อเนื่องมาจากแผนการเพื่อความสงบของรัฐบาล

โดยเฉลี่ยแล้วอายุของผู้ที่เสียชีวิตในขณะนั้นเป็นกลุ่มคนอายุน้อย อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-40 ปี ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นสำหรับผู้รอดชีวิตพบว่าส่งผลระยะยาวต่อร่างกายและจิตใจ รวมทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจด้วย

เหตุการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนในปี 1918

ถอดบทเรียนจากอดีต เหตุการณ์ครั้งนั้นเราเรียนรู้อะไรบ้าง ?

  1. การเน้นการกักกัน ผู้เขียนกล่าวว่าการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคต้องเน้นไปที่การกักกัน นี่คือเหตุผลว่าทำไมในช่วงการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากขนาดนั้น เพราะเมื่อติดเชื้อแล้วพวกเขายังคงออกไปแพร่เชื้ออย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากการประกาศนโยบายที่ล้มเหลว นักวิจัยพบว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้น หลายเมืองในสหรัฐอเมริกามีความพยายามที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้เมืองเหล่านี้มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยกว่าถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่ประกาศนโยบายล่าช้า
  2. ข้อมูลที่ถูกต้องคือกุญแจสำคัญในการควบคุมโรค ผู้เขียนกล่าวว่านโยบายการปิดบังข้อมูลข่าวสารนั้นไม่มีวันทำได้จริง เพราะสุดท้ายไม่ว่ายังไงความจริงก็จะปรากฏออกมาอยู่ดี ไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรจากการปิดบังข้อมูลข่าวสารเลย
  3. การเตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งโรคระบาดนี้แน่นอนจะส่งผลต่อทั้งอุปสงค์และอุปทาน ยิ่งสถานการณ์วิกฤติขึ้นเท่าใดผลกระทบทางเศรษฐกิจยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อย่างการปิดร้านรวงต่างๆ ในอิตาลีตอนนี้เป็นสาเหตุการนำมาซึ่งความถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างปฏิเสธไม่ได้ นอกจากนี้ผู้เขียนยังพูดถึงนโยบายต่างๆ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ หรือนโยบายโดยเฉพาะสำหรับผู้มีรายได้น้อย คนหาเช้ากินค่ำที่การหยุดงานนั้นส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพวกเขา การหยุดงานคนเหล่านี้ต้องขาดรายได้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถหยุดงานได้ และยังคงไปทำงานต่อแม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุของการแพร่กระจายของไวรัส

ในปี 1918 พบว่า คนที่อยู่ในเมืองมีโอกาสเสี่ยงมากกว่า เพราะมีปัจจัยทางสภาพแวดล้อมมาเกี่ยวข้องหลายอย่าง ดังนั้นมาตรการพิเศษในการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ต้องได้รับการพิจารณา รวมทั้งเด็กทารกเด็กแรกเกิดที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้ก็ต้องได้รับการดูแล เราไม่ควรโฟกัสอยู่แต่อัตราการเสียชีวิตเท่านั้น แต่ผู้ที่รอดชีวิตจากการระบาดของโรคก็ต้องได้รับการดูแลเช่นกันรวมทั้งลูกหลานของพวกเขาเหล่านั้นด้วย

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า