ครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือพิเศษ ‘ผู้สูงอายุ’ 100-250 บาท/คน/เดือน รวม 6 เดือน เริ่มจ่ายครั้งแรก 19 ก.ค. นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (5 ก.ค. 65) ว่า ประเทศไทยในวันนี้ยังมีปัญหาหลายอย่างที่เราจำเป็นต้องร่วมมือกันในการแก้ไขตนกับรัฐบาล ได้พยายามบริหารจัดการอย่างเต็มที่เพื่อจะดูแลช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของประชาชน ที่มาจากวิกฤตพลังงานของโลกที่เกิดขึ้น ตนเข้าใจดี รัฐบาลทุกคนเข้าใจดีถึงความลำบากของประชาชน ในยามนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ประเทศเรามีแผนยุทธศาสตร์ เพื่อรองรับสถานการณ์ทั้งระยะสั้น 3 เดือน ระยะกลาง 6 เดือน และระยะยาว 1 ปี เพื่อให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะไม่เกิดการขาดแคลนทั้งด้านพลังงานและอาหาร ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อบริหารสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเพื่อจะเร่งรัดจัดทำมาตรการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง
ซึ่งวันนี้ ครม. ได้อนุมัติงบกลางของปี 65 ที่เคยเห็นชอบหลักการไปแล้วเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษ ผู้สูงอายุ รวมวงเงินกว่า 8,300 ล้านบาท คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ 100-250 บาทต่อคนต่อเดือนตามช่วงอายุ แม้จำนวนเงินรายบุคคลอาจไม่มากนัก แต่ในยามนี้ ก็เชื่อว่า น่าจะมีส่วนช่วยผู้สูงอายุได้ไม่มากก็น้อย รัฐบาลทำเท่าที่สามารถทำได้ และไม่มีผลต่องบประมาณโดยรวมมากนัก
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงรายละเอียด ‘เงินช่วยเหลือพิเศษ ผู้สูงอายุ’ สรุปได้ดังนี้
วงเงินที่ครม.อนุมัติ คือ 8,382.2 ล้านบาท ช่วยเหลือเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย. – ก.ย. 2565
ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือครั้งนี้ มีจำนวน 4 กลุ่ม รวม 10.9 ล้านคน คือ
– ช่วงอายุ 60-69 ปี อัตราการช่วยเหลือ 100 บาทต่อคนต่อเดือน
– ช่วงอายุ 70-79 ปี อัตราการช่วยเหลือ 150 บาทต่อคนต่อเดือน
– ช่วงอายุ 80-89 ปี อัตราการช่วยเหลือ 200 บาทต่อคนต่อเดือน
– ช่วงอายุ 90 ปีขึ้นไป อัตราการช่วยเหลือ 250 บาทต่อคนต่อเดือน
จ่ายเงิน 3 ครั้ง
– ครั้งที่ 1 จ่ายเงินช่วยเหลือของเดือนเม.ย. – ก.ค. (4 เดือน) โอนวันที่ 19 ก.ค. 65
– ครั้งที่ 2 จ่ายเงินช่วยเหลือของเดือน ส.ค. โอนวันที่ 19 ส.ค. 65
– ครั้งที่ 3 จ่ายเงินช่วยเหลือของเดือน ก.ย. โอนวันที่ 19 ก.ย. 65
วิธีจ่ายเงินจะเข้าบัญชีธนาคาร โดยกรมบัญชีกลาง และมีการจ่ายเงินสดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวในช่วงท้ายของการแถลงข่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลรับฟังทุกปัญหาประชาชนที่เกิดขึ้น บางอย่างกำลังแก้ไขเร่งด่วน บางอย่างต้องนำเข้ากระบวนการ บางอย่างต้องดูกฎหมายต่างๆ เราทำหลายๆ อย่าง คิดแล้วจะทำ แต่ถ้ากฎหมายไม่มีไม่พร้อมก็ทำไม่ได้ ก็ต้องไปปรับกฎหมาย อาจจะช้าไปบ้าง เราก็ต้องประเมินสถานการณ์ไปด้วยกัน วันหน้าถ้าเจอหนักกว่านี้จะทำอย่างไร เรื่องพลังงาน
วันนี้เราก็บริหารได้ดีพอสมควร คือพลังงานเรายังไม่ขาดแคลน ยังมีขายอยู่ แต่ราคามันสูงขึ้น ด้วยเหตุผลหลายประการ คงต้องเตรียมความพร้อมไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โควิดมาจนถึงพลังงาน แต่วันนี้รัฐบาลก็ยังสามารถบริหารงบประมาณประเทศ ให้อยู่ในฐานะมั่นคงมีเสถียรภาพ สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไร เราจะไม่ขาดแคลนพลังงาน ไม่ขาดแคลนอาหาร เราเป็นประเทศเกษตรกรรมอยู่แล้ว เรื่องอาหารคงไม่มีเป็นปัญหาแต่จะทำอย่างไร ให้ส่งสินค้าไปต่างประเทศให้ได้มากขึ้นทำผลิตผลทางเกษตรให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น ทำให้สินค้าการเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้น
“รัฐบาลปัจจุบันก็มุ่งหวังอย่างเดียวจะทำอย่างไรจะคลี่คลายความโศกเศร้าความทุกข์ตรมต่างๆ ของประชาชน ให้ได้มากที่สุดขอความร่วมมือเท่านั้นเองขอความเข้าใจและร่วมมือกัน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ