น้ำมันรั่วทะเลระยองซ้ำ SPRC แจ้ง สภ.มาบตาพุดพบท่องส่งน้ำมันดิบใต้ทะเลรั่วจุดที่ 2

เอกสารหลุด SPRC ทำหนังสือแจ้ง สภ.มาบตาพุดพบท่องส่งน้ำมันดิบใต้ทะเลระยองรั่วอีกจุดและมีน้ำมันรั่วออกมาเป็นครั้งคราว

วันที่ 17 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวจังหวัดระยองรายงานว่า มีเอกสารหลุดของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ลงวันที่ 15 ก.พ. 2565 ส่งถึงสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด จังหวัดระยอง เรื่อง แจ้งขอปฏิบัติงานพันท่อเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน และมีการแนบหนังสือขั้นตอนหยุดการซึมของน้ำมันและพันปิดรอยรั่วที่ท่ออ่อนใต้ทะเล

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า พบความเสียหายของท่อส่งน้ำมันใต้ทะเลอีกจุดเป็นจุดที่ 2 อยู่ด้านบนของจุดที่ 1 จุดนี้ยังคงมีน้ำมันรั่วไหลออกมาเป็นครั้งคราว และถ้ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่ออ่อน มีความเสี่ยงที่น้ำมันจะรั่วไหลออกมา เมื่อเกิดคลื่นลมรุนแรง หรือในระหว่างถอดท่อที่เสียหาย (ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไป)

ทั้งนี้ เพื่อรักษาและป้องกันความเสียหายของท่ออ่อนและป้องกันน้ำมันรั่วไหลสู่ทะเล จึงต้องนำวัสดุมาห่อหุ้มรอยรั่วจุดที่ 2 โดยเร็ว ซึ่งในระหว่างดำเนินการใช้วัสดุพันปิดห่อหุ้มรอยรั่วแห่งที่ 2 อาจเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยบริษัทฯ ได้มีขั้นตอนเตรียมรับมือ จะดำเนินการดังนี้

1. ติดตั้งเต็นท์ดักจับน้ำมันบริเวณด้านบนของจุดรอยรั่ว

2. เตรียมเรืออย่างน้อย 10 ลำ สำหรับลากบูมอย่างน้อย 5 ปาก โดยเรือทุกลำสามารถใช้สำหรับฉีดสารขจัดคราบน้ำมัน dispersant

3. เตรียมเรืออย่างน้อย 3 ลำ สำหรับการฉีดสาร dispersant พร้อมแขนฉีด

4. ติดตั้งทุ่นกักน้ำมัน (boom) และอุปกรณ์กวาดน้ำมัน (skimmer) บริเวณที่ปฏิบัติงาน

5. นักดำน้ำ ดำบริเวณจุดที่มีรอยรั่ว เพื่อสังเกตตลอดเวลาการทำงาน พร้อมโดรนใต้น้ำเพื่อบินสำรวจใต้ทะเล

6. โดรนอากาศยาน เพื่อบินสำรวจทางอากาศ โดยการดำเนินการพันปิดห่อหุ้มจุดน้ำมันรั่วไหลจุดที่ 2 ดังกล่าวนี้ กำลังอยู่ระหว่างรอการอนุญาตจากกรมเจ้าท่า และสถานีตำรวจภูธร มาบตาพุด จังหวัดระยอง

ทั้งนี้ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ยังไม่มีแถลงการณ์เกี่ยวกับท่อส่งน้ำมันใต้ทะเลรั่วจุดที่ 2 ออกมาให้สาธารณชนทราบ

ล่าสุดนายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวหลังจากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำมันรั่วเมื่อช่วงเย็นวานนี้ว่า สถานการณ์คราบน้ำมันที่ขึ้นตามชายหาดไม่มีแล้ว ถือว่า สถานการณ์ดีขึ้น จึงปิดศูนย์บัญชาการน้ำมันรั่วที่ชายหาดแม่รำพึง แต่ยังเฝ้าระวังในการตรวจสอบไม่ให้คราบน้ำมันลอยเข้าหาด มีเรือ 32 ลำ มีเฮลิคอปเตอร์ บินลาดตระเวน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนชายหาด มีทีมเผชิญเหตุ ส่วนสถานที่ตั้งศูนย์บัญชาการ ก็ลดระดับลง ขณะที่การลงทะเบียนเยียวยาให้ย้ายจากชายหาดแม่รำพึงไปลงที่ศูนย์ราชการจังหวัด หากประชาชนได้รับผลกระทบทั้งจากอาหารทะเล หรือ การลงเล่นน้ำทะเล และผลกระทบอื่นๆให้แจ้งได้ทันที และได้เร่งรัดให้บริษัทฯ จ่ายเงินชดใช้ให้ผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนเร็วที่สุด.