หลังซีรีส์จากเกาหลีใต้อย่าง Squid Game ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยการทำลายสถิติผู้ชมสูงสุดตลอดกาลบน Netflix และนำพาให้สิ่งต่างๆ ในเรื่องได้รับประโยชน์ไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมเกาหลีอย่างเช่นเกมที่ชาวเกาหลีเล่นสมัยเด็ก หรือขนมของชาวเกาหลี ที่มีคนรู้จักมากขึ้น, รองเท้าที่ตัวละครใส่กลายเป็นสินค้าขายดีในชั่วพริบตา
และมากไปกว่านั้น ที่เริ่มเห็นมากขึ้น คือการที่แบรนด์หรือบริษัทต่างๆ หยิบยกสิ่งของหรือสัญลักษณ์ในเรื่องมาประยุกต์ใช้ในการทำการตลาดให้กับบริษัทตัวเอง
อย่างเช่นสตาร์ทอัพสัญชาติอเมริกันอย่าง Relief ที่เป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ที่นำปรากฏการณ์จากซีรีส์ Squid Game มาใช้ในการทำการตลาด
โดยบริษัทจัดทำการ์ดที่มีภาพรูปทรงเลขาคณิต 3 แบบอยู่บนบัตร คือ สี่เหลี่ยม, สามเหลี่ยม และวงกลม (ที่ในเรื่องใช้เป็นบัตรเชิญให้ผู้เข้าแข่งขัน) จำนวน 10,000 ใบ มาแจกให้ผู้คนในนิวยอร์กและไมอามี เพื่อโฆษณาแอปพลิเคชั่นของตัวเอง
ซึ่งรูปแบบบัตรดังกล่าวแตกต่างจากในเรื่องตรงที่ไม่ได้มีข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ให้โทรกลับแบบในเรื่อง และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชวนคนให้มาเล่นเกมสุดโหดเฉือนตายชิงเงินรางวัลแบบในเรื่องเช่นกัน
แต่บัตรของ Relief มีความเหมือนกับในเรื่องตรงที่มีเป้าหมายเหมือนกันคือต้องการให้ผู้คนหลุดพ้นจากสภาพ ‘หนี้ท่วมหัว’
โดยนอกจากสัญลักษณ์ที่นำมาใช้แล้ว บนบัตรมีเพียงคำบอกกล่าวสั้นๆ ที่ระบุว่า “มีวิธีการปลดหนี้ที่ดีกว่าอยู่นะ” และโลโก้พร้อมลิงก์ดาวน์โหลดแอปของบริษัท
ทั้งนี้ Relief สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการแบบ Serial Entrepreneur อย่าง ‘เจสัน ซอลท์ซแมน’ จัดตั้งขึ้นมาบนจุดมุ่งหมายหลักคือเพื่อจัดการกับปัญหาหนี้บัตรเครดิตของชาวอเมริกัน ที่เพิ่งไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 9.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่วนใหญ่หนี้เหล่านั้นก็มาจากชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z
บริษัทจึงพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ใช้อัลกอริทึม Machine Learning ควบคู่กับการเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อช่วยผู้ใช้ในการลดยอดหนี้และลดดอกเบี้ยให้ต่ำลง
ซึ่งเมื่อการเจรจาเสร็จสิ้น แอปก็จะคำนวณและเซตแผนการชำระเงินให้กับผู้ใช้ เพื่อชำระหนี้ในส่วนที่เหลือ
Wunder เอเจนซี่อิสระจากแคนาดาที่ทำงานร่วมกับ Relief ระบุว่า การแจกการ์ดดังกล่าวก็เพื่อใช้ประโยชน์จากความโด่งดังของซีรีส์ดังกล่าวให้คุ้มค่า และดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีที่เหมาะอย่างยิ่งที่นำมาใช้โปรโมตแอปที่เพิ่งเกิดอย่างเช่นแอปนี้
“เราคิดว่าถ้าเราสำเร็จได้ด้วยบางอย่างที่เร็วพอ และมีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์จริง เราก็จะสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ให้แบรนด์ได้อย่างน่าประหลาดใจ และเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับหนี้สินได้” สตีเฟน ฟลินน์ ครเอทีฟไดเร็กเตอร์แห่ง Wunder กล่าว
และหากถามว่า หยิบกิมมิคในซีรีส์มาใช้แบบนี้ Netflix ไม่ว่าจะอะไรหรือ Wunder ระบุว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาจาก Netflix หรือผู้ผลิตใดๆ เนื่องจาก Wunder ระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ใช้สิ่งที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพที่เพิ่งได้รับเงินลงทุน 2 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาอย่าง Relief จะพิจารณาขยายการโปรโมทรูปแบบนี้ไปยังเมืองอื่นๆ เพิ่มเติม หาก Squid Game ยังเป็นที่พูดถึงและได้รับความนิยมอยู่
โดยเป้าหมายเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนชาวอเมริกันที่เป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่ง Relief จะใช้ AI ร่วมกับการเจรจาเพื่อลดยอดหนี้ และช่วยให้ผู้คนหลุดพ้นจากการเป็นลูกหนี้ได้ในที่สุด
“สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ หากเราพลาดเพียงครั้งเดียว ก็ต้องเดินตามเกมจ่ายค่าบัตรเครดิตทุกเดือนๆ ตลอดไป” ฟลินน์กล่าว ก่อนจะระบุว่า บริการฟรีของพวกเขานั้นไม่เชื่อในเรื่องการตัดสินคนจากอดีตทางการเงิน แต่จะช่วยผู้คนด้วยการนำทางให้ผ่านอุปสรรคทางการเงินเหล่านั้นด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด
ที่มา:
https://techcrunch.com/2021/07/28/relief-looks-to-negotiate-on-behalf-of-users-struggling-with-debt/