ทุกอย่างเลวร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ นายกฯ บอกหลัง จีดีพี Q3/66 โตแค่ 1.5%

ตัวเลขจีดีพีไทย ไตรมาส 3 ปี 2566 โตแค่ 1.5% นายกฯ ‘เศรษฐา’ บอก เลวร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (20 พ.ย. 66) ได้เรียกนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล หลังมีรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 3/2566 ขยายตัว 1.5 % ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างมาก และเมื่อสอบถาม เลขาฯ สภาพัฒน์ ก็ยอมรับว่า ตกใจกับตัวเลขที่ออกมา เพราะจริงๆ คาดการณ์ว่า จะเห็นเลข 2

ส่วนอุปสรรคที่ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจ โต 1.5% นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า มาจากเหตุผลหลายอย่าง ทั้งการใช้จ่าย การลงทุน และโรงงานที่ยังมีกำลังการผลิตไม่เต็มศักยภาพ “ทุกอย่างก็จริงๆ แล้วเลวร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ”

นายเศรษฐา ยอมรับ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาส่งผลกระทบไปยังไตรมาสที่ 4 ปีนี้ด้วย ซึ่งพยายามทำให้ตัวเลขดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลจะทำเพื่อให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจดีขึ้นคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ตใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า

“ผมว่าเราพูดกันเยอะแล้วนะครับ เราก็ทราบแล้วว่าขั้นตอนต่อไปเป็นอย่างไร และตัวเลขก็บ่งบอกชัดเจน ขอไม่ตอบเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จุดยืนชัดเจนครับ วิกฤติและจำเป็นครับ แหล่งเงินกู้ชัดเจนแล้วเป็นการออกบอนด์ (ฺBond)”

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ รายงานในวันนี้ระบุว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งเป็นตัวเลขจริงทางเศรษฐกิจของไทย ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ขยายตัว 1.5% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งขยายตัวอยู่ที่ 1.8%

นอกจากนี้ นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า การเดินทางเข้ากระทรวงการคลังวันนี้ จะมาติดตามเรื่องความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบ เพื่อดูว่าต้องมีกลุ่มไหนมาบ้างที่ต้องดูแลเพิ่มเติม

ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนและกระทรวงมหาดไทย จะเข้าไปดำเนินการ โดยมอบหมาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยไปแล้ว ซึ่งเข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหานี้ และได้พูดคุยกันในเรื่องนี้ และมีการวางแผนว่า จะมีการแถลงร่วมกันกับการบริหารหนี้ทั้งหมดหรือจะแยกแถลง