SHARE

คัดลอกแล้ว

การเมืองในศรีลังกายังคงวุ่นวายและไม่มีทีท่าจะสงบลง แม้นายโกตาบายา ราชปักษา จะลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงปักหลักประท้วงเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ลาออกด้วย

สถานการณ์การประท้วงของชาวศรีลังกาเริ่มกลับมาส่อเค้ารุนแรงอีกครั้ง หลังนักศึกษาและกลุ่มประชาชนวางแผนจะออกมารวมตัวกันครั้งใหญ่ในวันนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากความไม่พอใจที่ นายรานิล วิกรมสิงเห ซึ่งทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีอยู่ในขณะนี้ เป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่แทนนายราชปักษา

การนัดประท้วงใหญ่มีขึ้นหลังจากที่รัฐสภาศรีลังกาจัดการประชุมเมื่อวันที่ 15 ก.ค. เพื่อเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ว่างลง และได้มีการประกาศรายชื่อออกมาในวันนี้ (19 ก.ค.) โดยปรากฏชื่อของ นายรานิล วิกรมสิงเห ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 6 สมัย เป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงกับ นายดัลลาส์ อาลาฮาเปอร์รูมา รัฐมนตรีฝ่ายสื่อสารมวลชนและโฆษกคณะรัฐมนตรีจากพรรครัฐบาล และนายอนุรา กุมารา ดิษณายกะ ผู้แทนพรรค Janatha Vimukti Peramuna (JVP) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย

ขณะที่นายซาจิธ เปรมาดาซา หัวหน้าพรรค Samagi Jana Balawegaya ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ได้ถอนตัวออกจากการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี พร้อมกับประกาศว่าจะสนับสนุนนายอาลาฮาเปอร์รูมา ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของประเทศในการเลือกตั้งของรัฐสภาซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธที่ 20 ก.ค. นี้

กลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่พอใจการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายวิกรมสิงเห มองว่านายวิกรมสิงเหเป็นเครือข่ายที่ใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีราชปักษา และได้มีการเรียกร้องให้นายวิกรมสิงเหลาออกจากตำแหน่งมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มผู้ประท้วงที่มีความโกรธแค้นเครือข่ายของนายราชปักษาได้มีการบุกเข้าไปทำลายข้าวของในสำนักนายกรัฐมนตรี และปักหลักประท้วงมาถึงปัจจุบัน จนทำให้รัฐบาลตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 ก.ค.) เพื่อควบคุมความสงบก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดี

ด้านนายวิกรมสิงเหได้เปิดใจครั้งแรกในฐานะรักษาการประธานาธิบดีกับสื่อต่างประเทศ ในบทสัมภาษณ์พิเศษของซีเอ็นเอ็นถึงเหตุผลที่เขาลงสมัครประธานาธิบดีในครั้งนี้ว่า เขาต้องการเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวศรีลังกากำลังเผชิญอยู่

“ผมไม่ต้องการเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศ เรื่องที่เกิดขึ้นกับผม ผมไม่อยากให้ใครต้องมาทุกข์ทรมานเช่นนั้น แน่นอนว่าผมไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับคนอื่น” นายวิกรมสิงเหกล่าวเมื่อถูกถามว่าทำไมเขาถึงต้องการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

นายวิกรมสิงเหเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า “ผมเข้าใจสิ่งที่ชาวศรีลังกากำลังเผชิญอยู่ ผมบอกกับพวกเขาเองว่าเราจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาสามสัปดาห์ที่เลวร้าย และระบบทั้งระบบก็ล่มสลายลง เรากำลังจะไม่มีแก๊สใช้ กำลังจะไม่มีน้ำมันใช้กัน นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากๆ”

ในส่วนของการประท้วง นายวิกรมสิงเหอธิบายว่า ประชาชนมีสิทธิ์ประท้วงอย่างสันติ แต่ต้องไม่ขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐสภา ซึ่งเขาระบุว่านี่คือเหตุผลของการตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี

“ทหารและตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธกับมวลชน แม้พวกเขาจะถูกทำร้ายในบางครั้ง แต่เราก็บอกให้พวกเขาใช้ความอดกลั้นมากที่สุดเพื่อที่จะไม่นำอาวุธออกมาใช้” นายวิกรมสิงเหกล่าว พร้อมกับย้ำว่า เขาจะไม่ยอมให้ผู้ประท้วงขัดขวางการลงคะแนนเสียงในวันพุธ (20 ก.ค.) หรืออนุญาตให้มีการบุกเข้าไปทำลายสถานที่ใดๆ อีกต่อไป

ทั้งนี้ ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการประกาศใช้มาตรการปรับลดภาษีของรัฐบาลนายราชปักษา ส่งผลให้รัฐบาลขาดแคลนรายได้ รายจ่ายของประเทศสูงกว่ารายรับ เกิดการขาดดุลงบประมาณเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง จนผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศจำนวนมหาศาล และในที่สุดก็ไม่มีเงินสกุลต่างประเทศเพียงพอสำหรับการซื้อและนำเข้าสินค้าจำเป็นอย่าง น้ำมัน อาหาร รวมถึงยารักษาโรค ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ลุกลามเป็นความโกรธเคืองไม่พอใจอย่างหนัก จนประชาชนจำนวนมากพากันออกมารวมตัวเพื่อขับไล่ประธานาธิบดีและรัฐบาล
 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า