ปธน.ศรีลังกาสั่งทหารปราบปรามผู้ประท้วงต้านรัฐบาล มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 9 ราย

กองทัพศรีลังกาเริ่มปฏิบัติการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงโคลัมโบ บุกรื้อเต็นท์ จับกุมตัวผู้ประท้วง หนึ่งวันหลังจากนายรานิล วิกรมสิงเห สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานในช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ค.) ว่า กองกำลังความมั่นคงศรีลังกา ซึ่งเป็นปฏิบัติการร่วมระหว่างทหาร หน่วยคอมมานโด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวนหลายร้อยนาย ได้บุกไปยังแคมป์ของกลุ่มผู้ประท้วงนอกทำเนียบประธานาธิบดี ทำการรื้อถอนเต็นท์ เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่ หลังจากที่เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) นายรานิล วิกรมสิงเห ได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ แทนนายโกตาบายา ราชปักษา ที่หลบหนีออกนอกประเทศและลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ภาพที่มีการเผยแพร่บนสื่อ ปรากฏภาพทหารในชุดปราบจลาจลพร้อมอาวุธปืนไรเฟิลบุกเข้าทำลายเต็นท์ของผู้ชุมนุมที่ปักหลักมาตั้งแต่เดือน เม.ย. เพื่อขับไล่รัฐบาลเนื่องจากความโกรธแค้นกับปัญหาเศรษฐกิจ จนทำให้ขาดแคลนเชื้อเพลิง อาหาร และยารักษาโรค

รอยเตอร์สอ้างการเปิดเผยของนลิน ทัลดูวา โฆษกตำรวจของศรีลังกา ที่ออกมาระบุว่า “ปฏิบัติการร่วมระหว่างกองกำลังพิเศษของทหาร ตำรวจ และหน่วยปราบจลาจล เริ่มขึ้นเมื่อเช้าตรู่ เพื่อคืนพื้นที่ทำเนียบประธานาธิบดีจากกลุ่มผู้ประท้วง เนื่องจากพวกเขาไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะยึดครองสถานที่นี้”

ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีผู้ประท้วงถูกจับกุมตัวไป 9 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

การปราบปรามดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายรานิล วิกรมสิงเห ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวศรีลังกาจำนวนมาก เนื่องจากมองว่านายวิกรมสิงเหเป็นเครือข่ายที่มีความใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีราชปักษา ที่ถูกกดดันจนต้องลาออกจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้

ขณะที่นายวิกรมสิงเหได้ออกมาประกาศชัดว่า ความพยายามใดๆ ที่จะโค่นล้มรัฐบาลหรือยึดสถานที่ราชการไม่ได้เป็นไปตามประชาธิปไตย พร้อมกับเตือนว่าผู้ที่หลงละเลิงไปกับการกระทำเช่นนั้นจะต้องถูกจัดการอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย

ภายหลังจากรับตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงไม่นาน นายวิกรมสิงเหได้ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) เรียกร้องให้กองทัพเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในหลายเขตของประเทศตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป ท่ามกลางความกังวลของกลุ่มผู้ชุมนุมว่ารัฐบาลอาจจะสั่งการให้มีการปราบปรามการประท้วงในเวลาไม่ช้านี้