สำนักนายกรัฐมนตรีศรีลังกา ย้ำประธานาธิบดีศรีลังกาลาออกวันที่ 13 ก.ค. แน่ แม้ยังไม่มีการยืนยันจากปากของประธานาธิบดีราชปักษาเอง ซึ่งเชื่อว่ากำลังหลบซ่อนผู้ชุมนุมอยู่บนเรือรบกลางทะเล ภายใต้การคุ้มครองจากกองทัพ
สำนักนายกรัฐมนตรีศรีลังกา ออกมายืนยันว่า นายโคฐาภยะ ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกา จะลาออกจากตำแหน่งในวันพุธ (13 ก.ค.) โดยนี่เป็นการยืนยันอีกครั้งหลังประธานรัฐสภาศรีลังกาเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (9 ก.ค.) ว่า ประธานาธิบดีราชปักษาจะลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกผู้ประท้วงจำนวนมากออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และบุกเข้าไปยังบ้านพักประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันออกมาโดยตรงจากประธานาธิบดีราชปักษา ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า เขาหลบซ่อนอยู่ที่ไหน โดยเว็บไซต์บีบีซีรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า เขากำลังหลบอยู่ในเรือรบลำหนึ่งกลางทะเล เช่นเดียวกับสื่ออีกหลายสำนักที่สันนิษฐานว่า กองทัพศรีลังกาน่าจะกำลังคุ้มครองความปลอดภัยของประธานาธิบดีราชปักษาอยู่
โดยหากประธานาธิบดีราชปักษาลาออกจากตำแหน่ง และนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ลาออกจากตำแหน่งด้วยตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ประธานรัฐสภาจะทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีไปก่อน และรัฐสภาต้องมีหน้าที่ลงมติเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ภายใน 30 วัน เพื่ออยู่ในตำแหน่งไปจนถึงปี 2024 ซึ่งเป็นปีสิ้นสุดวาระตามกำหนดเดิมของรัฐบาลราชปักษา
โดยเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) พรรคการเมืองในศรีลังกานัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหลายฝ่ายกำลังจับตาว่า ศรีลังกาจะเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลใหม่ได้อย่างเรียบร้อยหรือไม่ และรัฐบาลใหม่จะสามารถแก้วิกฤติเศรษฐกิจประเทศที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ได้รับเอกราชมาได้อย่างไร
รายงานระบุว่า ในตอนนี้ศรีลังกามีหนี้ค้างชำระอยู่ที่ราว 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำลังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อขอเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อนำมาใช้ฉุกเฉินเพื่อแก้ปัญหาพลังงานและสินค้าจำเป็นขาดแคลน
ขณะที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในศรีลังกา โดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังจับตาเหตุการณ์ในศรีลังกาและหวังว่ารัฐสภาศรีลังกาจะแก้ปัญหาที่เกิดจากความไม่พอใจของประชาชนได้อย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่ออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในศรีลังกาด้วย