แฮชแท็กศรีสุวรรณ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทันทีหลังจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูกชกขณะที่เข้าร้องเรียนต่อ ปอท. ขอให้ตรวจสอบเดี่ยว13 ของ ‘โน้ต อุดม’
ที่มา #ศรีสุวรรณ
เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันนี้ (18 ต.ค. 2565)โดยนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเดี่ยว13 ของ ‘โน้ต อุดม’ ว่าเข้าข่ายยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดหรือไม่
แต่ได้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นโดยนายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล เดินเข้ามาชกนายศรีสุวรรณ จนเกิดความชุลมุนขึ้นก่อนที่จะมีคนเข้ามาช่วยแยกนายวีรวิทย์ ออกไป
ทันทีที่มีภาพนายศรีสุวรรณโดนชก ทำให้โลกโซเชียลโดยเฉพาะทวิตเตอร์มีการพูดถึงอย่างกว้างขวางและมีการติดแฮชแท็ก #ศรีสุวรรณ จนติดเทรนด์
ทำเพื่อสั่งสอนเพราะร้องเรียนไปทั่ว
หลังเกิดเหตุนายวีรวิทย์ ได้ให้สัมภาษณ์ ระบุว่าเป็นแนวร่วมเสื้อแดง ซึ่งตนเองคาใจตั้งแต่ช่วงศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยปม นายกฯ 8 ปี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่าใครชุมนุมแจ้งจับหมด ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ร่วมชุมนุม และตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน แม้กระทั่งตำรวจที่สนิทกับตนได้ฝากมาตบด้วย แต่ขอไม่เอ่ยชื่อ วันนี้ต้องกราบขอโทษทางปอท. ที่มาในวันนี้ เพราะไม่มีโอกาสเลย ตนเฝ้าดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องเรียนอะไรที่ไหนบ้าง วันนี้จึงทิ้งงานมา
“ผมตบเพื่อสั่งสอนให้รู้ว่าคนเห็นต่างก็มี อย่าเลียจนเกินไป ผมอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรผมไม่แคร์ ผมอยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตยทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง แต่อย่าเกินเลยจนเกินไป หลายปีมานี้ นายคนนี้เป็นนักร้องดังกว่านักร้องแร็ป นักร้องลูกทุ่ง เหตุผลนี้ผมจึงมาตบสั่งสอน ผมตั้งใจมาแบบนี้จริงๆ ถ้าผมถูกดำเนินคดีผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม “ นายวีรวิทย์ กล่าว
หลังจากนั้นนายวีรวิทย์ เดินทางกลับ และได้ไลฟ์อีกครั้ง ใจความว่าทำตามสัญญา ทนไม่ได้ที่ ‘ศรีสุวรรณ’ เที่ยวร้องเรียนไปเรื่อย โดยขณะไลฟ์มีคนโทรศัพท์มาให้กำลังใจหลายสาย พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา แต่ก็มีบางสายที่โทรมาต่อว่าเช่นกัน
‘ศรีสุวรรณ’ แจ้งความ พร้อมบอกไม่ท้อจะเดินหน้าร้องเรียนต่อ
ขณะที่ศรีสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ระบุว่าได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และเข้าแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน โดยจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ด้วย หลังจากนี้ถ้าจะไปร้องเรียนที่ไหนก็เพิ่มความระวังมากขึ้นอาจมีเพื่อนๆ ไปด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะไม่หยุดร้องเรียน ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญ แต่ไม่ท้อและจะทำหน้าที่ต่อไปไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล หรือใครจะมาเป็นฝ่ายค้าน เพราะตนก็ทำหน้าที่นี้มาโดยตลอด
ส่วนคนที่มาทำร้ายตนอ้างว่าเขาเป็นกลุ่มประชาธิปไตย ซึ่งประชาธิปไตยของพวกคุณคือการทำร้ายคนอื่นอย่างนั้นหรือ ตนคิดว่ามันไม่ใช่
‘สนธิญา’ หนึ่งในนักร้องตัวยงลั่นไม่กลัวเดินหน้าร้องต่อ
อีกคนหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นหนึ่งในนักร้องเบอร์ต้นๆ เช่นกันและในวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค. 65) นายสนธิญา มีกำหนดการ ไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อร้องเรียนเดี่ยว13 ของ โน้ต อุดม เช่นกัน พร้อมบอกว่าไม่กลัวว่าจะถูกบุกทำร้ายเหมือนนายศรีสุวรรณ เพราะหากมีใครจะเข้ามาชก ตนก็จะชกก่อนอย่างแน่นอน
อินฟลูเอนเซอร์ – นักเคลื่อนไหว – นักการเมือง ไม่เห็นด้วยใช้ความรุนแรง
ขณะที่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ ซึ่งเป็นอีกคนที่เคยถูกศรีสุวรรณร้องเรียนขณะที่ยังเป็นพระ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า “ถึงดิฉันจะไม่ชอบลุงศรีแค่ไหน โดนร้องมาหลายครั้งตอนเป็นพระ แต่ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงนะคะ ถ้าจะชกกัน ควรอยู่บนเวทีมวยเท่านั้นค่ะ”
ขณะที่ อีเจี๊ยบ เลียบด่วนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเช่นกัน โดยระบุว่า “อุ๊ยยยย!! พี่ศรีโดนต่อย ไม่ชอบขี้หน้าแกก็เรื่องนึงนะ กูก็เกลียดแกยั้งขี้ แต่ใช้ความรุนแรงนี่ไม่โอเคว่ะ”
เช่นเดียวกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี บอกว่าก่อนหน้านี้เกือบถูกชายคนดังกล่าวทำร้ายเช่นกัน ขณะที่ทำงานอยู่ที่ตึก กพร. แต่ตนรู้ทันเลยป้องกันตัวรอดมาได้พร้อมกล่าวถึงกรณีนี้ว่า ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง
นายเสกสกล บอกว่าที่ผ่านมานายศรีสุวรรณ ถือว่าทำตามหน้าที่ของตนเองและทำตามกติกา เมื่อเห็นใครทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ไปยื่นหนังสือให้มีการตรวจสอบเท่านั้น และได้ให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ ทำหน้าที่ในการตรวจสอบต่อไป
ด้าน ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา คณะสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับการมีคนตบป้าเป้า ไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายนักศึกษาเยาวชน และผมก็ไม่เห็นด้วยกับการบุกชกคุณ ศรีสุวรรณ จรรยา แม้ผมจะไม่เห็นด้วยและไม่ได้ชอบ คุณศรีสุวรรณก็ตาม”
ซึ่งไม่ต่างจากนักเคลื่อนไหวอย่างรุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และอานนท์ นำภา โดยรุ้ง-ปนัสยาโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ไม่ควรมีเหตุผลใดที่จะนำมาสนับสนุนความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะในระดับใดก็ตาม กรณีคุณศรีก็เช่นกัน”
ส่วนอานนท์ ระบุว่า “ผมว่าอย่าไปสนับสนุนการใช้ความรุนแรงเลยครับ บางเรื่องต่อให้ชอบหรือชังก็ไม่ควรสร้างให้เป็นกระแสการยินยอมให้ใช้ความรุนแรง”