สภาฯ จะบรรจุญัตติตั้งกมธ.ศึกษา “ที่มา ส.ว.” แต่ไม่ใช่ตรวจสอบ

รองประธานสภาฯ เผย เตรียมบรรจุญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาวิธีการได้มาซึ่ง ส.ว. ตามที่ฝ่ายค้านเสนอ แต่ไม่ใช่การตรวจสอบ

ศุภชัย โพธิ์สุ

วันที่ 10 ก.ค. นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เปิดเผยว่า เตรียมบรรจุญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาวิธีการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยเสนอ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากเป็นการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาไม่ได้ตั้งเพื่อตรวจสอบเหมือนที่เสนอมาก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่ากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. เป็นกระบวนการที่ใช้อำนาจโดยชอบของ คสช. และเป็นกระบวนการที่เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งการตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาน่าจะเป็นประโยชน์ในเชิงให้ความรู้ หากศึกษาแล้วพบสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ ส่วนจะนำผลการศึกษาไปอ้างอิงได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาข้อกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า แต่ยังไม่มีการบรรจุญัตติดังกล่าวในวันนี้ ซึ่ง ถือว่าไม่ใช่เป็นญัตติเร่งด่วน จำเป็น ต้องศึกษาเพื่อให้ทราบผลและนำไปสู่การปฏิบัติ แต่ศึกษาเพื่อเป็นหลักการและเป็นประโยชน์ต่อไป

สมคิด เชื้อคง

ด้าน นายสมคิด เชื้อคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากทราบว่า นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เห็นชอบให้เตรียมบรรจุญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษากระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งตนเองเป็นผู้เสนอ ว่า ขอบคุณนายศุภชัย ที่จะบรรจุญัตติดังกล่าว แม้ว่าขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ส.ส.วันใด แต่เรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชน ซึ่งเจตนาของตนเองที่เสนอให้ตั้ง กมธ.ดังกล่าวนั้น ต้องการศึกษาว่า มีกระบวนการได้มาถูกต้องตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่

ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ก็ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญด้วย ยืนยันว่าเป็นการทำความจริงให้ปรากฏ มีความโปร่งใส ไม่ใช่การโจมตีทางการเมือง หรือต้องการล้มรัฐบาล และไม่ได้ลดอำนาจของ ส.ว.แต่อย่างใด แต่เป็นการใช้สภาเป็นเวทีให้สมาชิกทุกคนร่วมกันอภิปราย ซึ่งจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีต่อไป

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตนยังไม่มั่นใจว่าญัตติดังกล่าวเมื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาแล้ว จะสามารถตั้ง กมธ.วิสามัญได้หรือไม่ เพราะต้องอาศัยความเห็นของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลด้วย หากมีที่มาถูกต้อง ก็ไม่มีปัญหา คาดว่า จะใช้เวลาศึกษาไม่นาน ประมาณ 45-60 วัน แต่หากสภาไม่เห็นชอบให้ตั้ง กมธ.ดังกล่าว ก็ถือว่าตนทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่หากตั้ง กมธ.ดังกล่าวได้แล้วพบว่า ที่มา ส.ว.ไม่โปร่งใส่ ก็จะยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามกระบวนการต่อไป