SHARE

คัดลอกแล้ว

‘ไบร์ท วชิรวิชญ์’ ผู้ชายที่ใครๆ ตกหลุมรักได้ด้วยหน้าตา แต่จะรู้สึกรักมากกว่าถ้าได้รู้จักทัศนคติ และตัวตน  

เปิดแง่มุมในชีวิตของนักแสดงและนักร้องไทยที่โด่งดังสุดขีด ตั้งแต่ปี 2563 จากผลงานแสดงซีรีส์กระแสแรง คั่นกู หรือ เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ส่งให้ ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี กลายเป็นขวัญใจของแฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างประเทศในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมๆ กับพาร์ทเนอร์เคมีทองคำจากซีรีส์เรื่องเดียวกัน วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ซึ่งทั้งคู่เป็นที่รู้จักในนาม “ไบร์ทวิน”

เส้นทางในวงการบันเทิงของ ‘ไบร์ท วชิรวิชญ์’ ไม่ใช่เพิ่งเริ่มเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เด็กหนุ่มที่เติบโตในจังหวัดนครปฐมที่กำลังจะอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เข้ามาสัมผัสวงการบันเทิง ตั้งแต่อายุ 16 ปี เริ่มจากการงานพิธีกร สตรอเบอรี่ครับเค้ก รายการวัยรุ่นทางช่อง 3 ทำอยู่ได้ 2 ปี รายการปิดตัวลง แต่ก็ยังคงแคสต์งาน (เข้าทดสอบเพื่อหางาน) ในวงการบันเทิงควบคู่ไปกับการเรียน ซึ่งต้องถือว่าเป็นเด็กที่เรียนดี มัธยมต้นเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ก่อนสอบเข้ามัธยมปลาย สายวิทย์-คณิต ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ด้วยความตั้งใจและทุ่มเทของคุณแม่ แม้เป็นซิงเกิลมัมแต่แข็งแกร่งมุมานะส่งเรียนพิเศษ จนไบร์ทสามารถสอบเข้าศึกษาในโครงการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ (TEPE) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้สำเร็จ แต่แล้วก็มีจุดเปลี่ยน เมื่อไบร์ทเข้าไปบอกแม่ขอดร็อปเรียน เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเองด้วยอาชีพในวงการบันเทิง

จนกระทั่ง ปี 2562 ไบร์ทได้เซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มทีวี ไบร์ทกลับไปเรียนอีกครั้งโดยเลือกเข้าศึกษาที่คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด (Marketing) หลักสูตรนานาชาติ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (Bangkok University International หรือ BUI) ซึ่งไบร์ทสำเร็จการศึกษาตั้งแต่ปี 2564 และกำลังจะเข้ารับปริญญาบัตร ในวันที่ 14 ธันวาคมปีนี้

เมื่อได้อยู่ในค่ายจีเอ็มเอ็มทีวี ไบร์ทมีงานแสดงมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้รับบทนำ และได้เป็นหนึ่งในพิธีกร โตแล้ว รายการท่องเที่ยวของแก๊งวัยรุ่นสนุกสนาน ทำอยู่ได้ 1 ปี รายการนี้ก็จบซีซั่น จังหวะนั้นเองไบร์ทได้รับโอกาสใหม่ให้เป็นพระเอกซีรีส์วายเป็นครั้งแรกและได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของไบร์ท

ขึ้นแท่นดารายอดนิยมวัยรุ่นที่มาแรงที่สุดในยุคนี้

ยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของไบร์ท @bbrightvc เพิ่มมากขึ้นเป็นกราฟพุ่งสูง นับตั้งแต่ซีรีส์คั่นกูประสบความสำเร็จ ต่อเนื่องมาจนถึงผลงานด้านการแสดงใหม่ๆ อย่างซีรีส์ F4 Thailand,  คืนนับดาว และ Good old days ร้านซื้อขายความทรงจำ โดยปัจจุบันอินสตาแกรมของไบร์ทมีมากกว่า 16.5 ล้านฟอลโลเวอร์ ส่วนทวิตเตอร์อีกช่องทางที่ไบร์ท มีเรื่องราวมาอัปเดตบ่อยๆ เช่นกัน ก็มีผู้ติดตามมากกว่า 4.4 ล้านบัญชี

อย่างไรก็ตามผลงานสุดว้าว ที่ไบร์ทสร้างชื่อล่าสุดคือเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไบร์ทบินลัดฟ้าไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ของแบรนด์ Burberry แบรนด์สุดหรูเก่าแก่ระดับโลก ซึ่งไบร์ทได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าทางสื่อให้กับ Burberry

โดยสื่อ  WWD ได้อ้างอิงสถิติการเก็บข้อมูลของ Launchmetrics Burberry พบว่า แบรนด์ Burberry สามารถสร้างมูลค่าทางสื่อ (Media Impact Value) จากงานแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ประจำปี 2023 ที่จัดขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้มากถึง 17.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 670 ล้านบาท โดยยกเครดิตให้จากการเข้าชมแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ของนักแสดงไทย ‘ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี’

LONDON, ENGLAND – SEPTEMBER 26: Bright Vachirawit arriving at the Burberry s/s 2022 Catwalk Show during London Fashion Week September 2022 on September 26, 2022 in London, England. (Photo by Neil Mockford/GC Images)

ซึ่งก่อนที่จะได้รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ของแบรนด์ Burberry ไบร์ทได้ถ่ายแบบแฟชั่น Burberry ให้กับนิตยสารในไทยหลายครั้ง จนกระทั่งเดือนกรกฎาคมปีนี้ ได้บินลัดฟ้า พร้อมกับนักแสดงวัยรุ่นไทยไปที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมงาน BURBERRY’S TB SUMMER MONOGRAM  แล้วที่พิเศษมากๆ ก็คือได้ร่วมโปรเจกต์เป็นช่างภาพเอ็กซ์คูลซีฟ กระเป๋าตระกูล The Lola Bag ที่มีแคมเปญทั่วโลก ซึ่งงานถ่ายภาพก็เป็นอีกไลฟ์สไตล์ที่ไบร์ทชื่นชอบมาตั้งแต่ช่วงทำพิธีกรรายการ โตแล้ว

ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งฉาบฉวย แต่เกิดจากการเป็น “นักเรียนรู้” 

เมื่อ 2 ปีที่แล้วในงาน Open house ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ไบร์ทได้รับเชิญให้ไปพูดคุยตอบคำถามกับรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แล้วก็มีคำถามหนึ่งที่ถามไบร์ทในทำนองแซวว่า ไบร์ทเป็นคนหรือพระเจ้า ? ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบกลับว่า

ผมเป็นคนครับ จริงๆ ผมมีอะไรที่ทำไม่ได้เยอะมาก บางทีคนอาจจะชอบเห็นภาพ อุ้ยไบร์ททำไมไบร์ททำโน่นทำนี่ได้หลายอย่าง จริงๆ ผมยังมีอะไรที่ผมต้องเรียนรู้อีกเยอะ ทุกวันนี้ผมลายมือก็อ่านไม่ออก วาดรูปก็ไม่เป็น เต้นก็ไม่ค่อยได้ แต่ว่านั่นแหละเราฝึกได้ทุกอย่าง ถ้าเราเปิดใจ ถ้าเราไม่ไปอคติกับมัน ลองทำดูอะไรที่เรารู้สึกว่ามันยากมันอะไร จริงๆ มันอาจจะมีจุดหนึ่งที่มันง่ายขึ้นก็ได้… ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปครับ พัฒนาตัวเองเยอะๆ เราเป็นได้มากกว่าที่เราคิดอีกเยอะ”

การที่งานของใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้ต้องพัฒนาตัวเองให้รอบด้านขึ้น แน่นอนว่า จาก 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้จะเห็นไบร์ทพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ไปฝึกวาดรูปที่แกลเลอรีในวัน Day off  แล้วก็น่าจะมีไปเรียนเต้น ดูจากการทัวร์ชมคอนเสิร์ตในปี 2565 จะมีคลิปลีลาการเต้นที่เรียกได้ว่ามีชีวิตชีวาและพลิ้วขึ้นเรื่อยๆ

ความสำเร็จในวงการแฟชั่นของไบร์ทกำลังไปได้อย่างสวยงาม ทำให้บรรดาแฟนคลับของไบร์ทภูมิใจตามไปด้วย เพราะถ้าไม่ได้ค้นลึกลงไป คงไม่มีใครคาดคิด BA แบรนด์ระดับโลกคนนี้ ตอนเป็นวัยรุ่นที่ยังไม่มีชื่อเสียงเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามือสอง มีคนดูไม่ถึงหลักร้อยคน และตอนนั้นแทบขายไม่ได้

ภาพจาก @fangbw3000

ดนตรีคือสิ่งที่รักและมุ่งมั่นจริงจัง

อีกงานที่ ไบร์ทรักและใฝ่ฝัน นอกจากงานแสดง คือการเป็นศิลปินนักร้อง เติบโตมากับครอบครัวที่เปิดสอนดนตรี ทำให้ไบร์ทเล่นดนตรีได้หลายอย่าง ทั้งกีต้าร์ คีย์บอร์ด กลอง แล้วยังมีเสียงร้องที่ไพเราะน่าฟัง เคยประกวดวงดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ แม้ชีวิตในวงการบันเทิงจะก้าวขาเข้ามาทางด้านการแสดงก่อน แต่แล้วในวันหนึ่งก็ได้โอกาสร้องเพลงนำของซีรีส์ ซึ่งเพลงคั่นกู ก็เป็นอีกองค์ประกอบที่ทำให้ไบร์ทเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังจากมีชื่อเสียงได้มีโอกาสไปร่วมร้องเพลง Sad Movie กับแร็ปเปอร์ชื่อดัง กอล์ฟ F.HERO หรือ กอล์ฟ ณัฐวุฒิ ศรีหมอก ซึ่งถือเป็นเพลงเปิดตัวค่าย HIGH CLOUD ENTERTAINMENT

แล้วปีนี้เองที่ไบร์ทโลดแล่นตามความฝันในการเป็นนักร้องอย่างจริงจัง โดยมีซิงเกิ้ลเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกในชีวิตที่ชื่อเพลง Lost&Found เพลงเศร้าสไตล์คนไม่มูฟออน (Move on) เพราะตัดใจจากสิ่งเก่าๆ ไม่ลง สะท้อนตัวตนและความเป็นไบร์ท อย่างเข้มข้น ซึ่งในเดือนมีนาคม ปี 2566 ไบร์ทก็จะมีอัลบั้มเพลงเป็นครั้งแรกในชีวิต

หนึ่งเหตุการณ์ที่อาจจะทำให้มองเห็นความเอาจริงจังเอาจังทางด้านดนตรี คือ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 65 ไบร์ทมีขึ้นโชว์ในเทศกาลดนตรีที่ราชมังคลากีฬาสถาน ด้วยคิวทอง และเดินทางไปแฟนมีตติ้งที่ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ต้องซ้อมกับวงแบบข้ามประเทศ จากนั้นรีบนั่งเครื่องบินกลับในวันแสดง ถึงสนามบินสุวรรณภูมิช่วงสาย และมาขึ้นเวทีโชว์ในช่วงเย็น เป็นโปรแกรมที่หลายคนถึงกับอุทานว่า “โหดมาก” แต่ไบร์ทยืนยันจะทำเพื่อสิ่งที่รักให้ได้

การเดินทางไปโชว์ตัวพบกับแฟนๆ ต่างประเทศยังคงมีต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ แฟนมีตเอเชียทัวร์ F4 Thailand ที่ยังต้องบินไปอีก 7 ประเทศ แต่ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ไบร์ทจะอยู่ในเมืองไทยเป็นหลัก เพื่อซ้อมคอนเสิร์ตคู่ครั้งแรกของไบร์ทวิน กับ Side by Side BrightWin Concert ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 24 ธ.ค. เพื่อให้แฟนๆ ที่รอคอยมา 3 ปีได้เต็มอิ่ม ส่วนคอนเสิร์ตเดี่ยวเจ้าตัวยืนยันว่ามีแน่นอน แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้นต้องรอติดตามกันต่อไป

สดๆ ร้อนๆ ไบร์ทจะมีเพลงใหม่ร่วมกับ โบกี้ ไลออน นักร้องสาวสุดคูล เจ้าของเพลงดัง วาดไว้, ลงใจ, ทราบแล้วเปลี่ยน แห่งค่าย What the duck music ในโปรเจกต์ BowkylionxBright Live Session ที่ปล่อยในวันที่ 20 พ.ย. นี้ นอกจากงานเพลงแล้ว ปีหน้าหนุ่มฮอตคนนี้จะมีงานแสดงภาพยนตร์ที่กำลังซุ่มเตรียมตัวอยู่ด้วย

และปีหน้า ชิมลางภาพยนตร์ เต็มตัว เรื่อง The Interest ผ่อนรักนอกระบบ โคจรพบกับนางเอกดังที่ขึ้นชื่อในฝีมือการแสดงโดยเฉพาะภาพยนตร์อย่าง ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ (อัปเดต 23 พ.ย. 65) 

ภาพจาก IG : @bbrightvc

เผชิญกับหลากหลายดราม่า

ต้องยอมรับว่าการมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น ย่อมถูกจับตามองมากขึ้นตามไปด้วย ไบร์ทเจอกับกระแสดราม่าแต่ละเรื่องค่อนข้างรุนแรง เคยติดเทรนด์ทวิตเตอร์ข้ามประเทศ เคยมีกลุ่มแอนตี้พฤติกรรมสมัยเรียนที่ขุดวีรกรรมมารื้อฟื้น รวมถึงประเด็นที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีดัง Forex 3D ซึ่งไบร์ท ได้ออกมาตอบคำถามและชี้แจงเรื่องราวต่างๆ ยอมรับผิด พร้อมรับปากจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ทำผิดซ้ำ โดยเมื่อหลายปีก่อน ไบร์ทเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสในแง่ลบจากคนที่ไม่ชอบเขาว่า ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอครับ”

นอกจากนี้ ไบร์ทยังมีมุมมองในเรื่องของการทำให้ผู้คนรอบตัวมีความสุข เพราะในฐานะนักแสดง นักร้อง ซึ่งเป็นอาชีพ ที่ถูกคาดหวังว่าจะสร้างความสุขให้กับผู้อื่นเสมอ โดยเป็นการตอบคำถามในงาน Open house ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งตอนนั้นเขาอายุ 22 ปี

“เราต้องมองหาความสุขจากอะไรเล็กๆ น้อยๆ  บางวันผมมองท้องฟ้าผมก็มีความสุขเพราะท้องฟ้าสำหรับผมเหมือนเป็นงานศิลป์ให้ดูฟรีเลยเพราะเปลี่ยนทุกวัน ถ้าเรามีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยได้ ชีวิตจะแฮปปี้ขึ้นเยอะ พอตัวเราแฮปปี้ ไม่ต้องคิดหรอกว่า เราจะแบ่งความสุขให้คนอื่นยังไง เรามีความสุข เราไปทางไหนเรายิ้มแย้มแจ่มใส …ทุกคนจะสัมผัสได้ เหมือนเราแผ่ความสุขอยู่ เริ่มจากตัวเราก่อน ตัวเรามีความสุขก่อน เราไม่ไปปล่อยพลังลบ คนรอบๆ ก็จะอารมณ์ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้จำเป็นว่าเรามีปัญหาอยู่แต่เราต้องมานั่งยิ้มแย้มแจ่มใส แต่เราต้องจัดอารมณ์ตัวเอง”

ภาพจาก IG : @bbrightvc

เรื่องราวบางส่วนจากชีวิตของ ‘ไบร์ท วชิรวิชญ์’ น่าจะเป็นตัวอย่างได้ไม่มากก็น้อย ในแง่ของความพยายาม การพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่ยังไม่รู้ รอให้ได้เรียนรู้อีกมากมาย…

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า