แบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เริ่มส่งสัญญาณเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 กระทบผลประกอบการ
สตาร์บัคส์เป็นธุรกิจต่างชาติรายแรกๆ ที่ส่งสัญญาณว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะมีผลกระทบกับผลประกอบการของธุรกิจ โดยวันที่ 28 มกราคม สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สตาร์บัคส์ได้ปิดสาขาในจีนกว่าครึ่งจากทั้งหมดกว่า 4,300 ร้าน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
นายเควิน จอห์นสัน ประธานกรรมการบริหารของสตาร์บัคส์ กล่าวว่า สตาร์บัคส์ กำลังประเมินการปิดร้านทุกวัน ส่วนร้านค้าที่ยังเปิดให้บริการในจีนยังคงให้บริการจัดส่ง แต่อาจมีเมนูจำกัดมากขึ้น เพราะการข้อจำกัดในการจัดส่งวัตถุดิบของซัพพลายเชน (supply chain) อย่างไรก็ตาม ซีอีโอของสตาร์บัคส์ ระบุว่า เรายังคงมองโลกในแง่ดี และมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสระยะยาวในประเทศจีน

แฟ้มภาพ AFP / ชาวจีนถือหน้าร้านสตาร์บัคส์
จีนเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของสตาร์บัคส์ โดยไตรมาสแรกยอดขายจาก ร้านสตาร์บัคส์สาขาในจีนอย่างน้อย 13 เดือน เพิ่มขึ้น 3 % แม้สตาร์บัคส์ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า จะส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างไร แต่ยอดขายในจีนคิดเป็นสัดส่วน 10 % ของรายได้ของสตาร์บัคส์ในไตรมาสแรก และคาดการณ์ว่า สตาร์บัคส์จะได้รับผลกระทบในไตรมาสที่ 2 โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทลดลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ปิดสาขาและไม่ให้บริการเดลิเวอรี่ (Delivery)ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหู่เป่ย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งการปิดร้านและเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ร้านค้าระดับโลกตอบสนองต่อการระบาดของโรคอุบัติใหม่นี้
อ้างอิง: