สตาร์บัคส์เล็งเพิ่มจำนวนสาขาทั่วโลกกว่า 66% รองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
วันที่ 9 ธ.ค. 2020 สตาร์บัคส์ (Starbucks) ธุรกิจร้านกาแฟรายใหญ่ของโลก ประกาศแผนต่อนักลงทุนว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะขยายจำนวนสาขา จากเดิมที่มีอยู่เกือบ 33,000 สาขาทั่วโลก ให้ถึง 55,000 สาขา ภายในปี 2030 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในวิถีชีวิตประจำวันของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
สำหรับตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ ทางสตาร์บัคส์จะใช้รูปแบบร้านค้าใหม่ที่เน้นบริการ ไดรฟ์ทรู (Drive-Thru) และ Starbucks® Pickup ที่เน้นสั่งกลับบ้าน รวมถึงร้านค้าริมถนนที่ลูกค้าสามารถรับอาหารและเครื่องดื่มขณะเดินผ่านโดยไม่ต้องเข้าไปในร้าน ซึ่งเป็นการปรับตัวหลังเกิดวิกฤตโควิด-19
ส่วนในประเทศจีนที่ตลาดเติบโตเร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก บริษัทมีแผนที่จะเปิดเพิ่มถึง 600 สาขาในปีหน้า โดย 10% จะเป็นร้านค้ารูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Starbucks Now™ ที่เน้นบริการสั่งและจ่ายเงินผ่านมือถือ Mobile Order & Pay และบริการเดลิเวอรี Starbucks Delivers™ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของพนักงานออฟฟิศ
สตาร์บัคส์เป็นอีก 1 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบพอสมควรในช่วงที่ทั่วโลกเข้าสู่การล็อกดาวน์ แผนการต่างๆ ในอนาคตจึงเน้นไปที่ความสะดวกสบายของผู้บริโภค เพื่อดึงยอดขายกลับมา
ในประเทศไทย ข้อมูลของเว็บไซต์ทางการระบุว่าสตาร์บัคส์มีสาขาทั้งหมด 336 สาขา และเริ่มมีการเปิดให้บริการ Mobile Order & Pay ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา