Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผู้ถือหุ้น STARK พร้อมทนาย รวมตัวกันร้อง ก.ล.ต.วันนี้ ให้เอาผิดสำนักสอบบัญชี ‘ดีลอยท์’ หลังปล่อยปละละเลยตรวจสอบงบการเงิน จนสร้างความเสียหายกว่า 4 หมื่นล้านบาท ด้านผู้เสียหายตัดพ้อ ปิดประตูลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้ว

‘อำพล รัตนมูสิก’ ทนายความ ในฐานะตัวแทนผู้เสียหายที่ลงทุนในหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK พร้อมตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เพิกถอนและดำเนินคดีอาญาเอาผิดกับผู้สอบบัญชี บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด (ดีลอยท์) จากกรณีตรวจสอบบัญชีและรับรองงบการเงินให้ STARK จนนักลงทุนหลงเชื่อ

โดยทนายระบุว่า ‘นันทวัฒน์ สำรวญหันต์’ เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และเป็นหุ้นส่วนของสำนักงานด้านการสอบบัญชี อยู่ในสังกัดของดีลอยท์ กระทำการโดยปล่อยปละละเลย ไม่เอาใจใส่เยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพผู้สอบบัญชี ไม่ได้ทำการตรวจสอบ ติดตามเรื่องต่อในงบการเงินปี 2564 ทั้งที่งบดุลและงบการเงินของ STARK มีข้อควรตรวจสอบ เช่น การลงทุนซื้อบริษัทในประเทศเวียดนาม

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวมีการสร้างยอดขายปลอม โดยให้บริษัทในเครือจ่ายเงินแทนลูกหนี้ จ่ายภาษีขายจากยอดขายที่ไม่เกิดขึ้นจริง สร้างรายจ่ายปลอม รับชำระหนี้ปลอม บันทึกต้นทุนขายและสินค้าคงเหลือเกินจริง บันทึกลูกหนี้ไม่ถูกต้อง เพื่อให้เห็นว่า STARK มีผลประกอบการที่ดีน่าลงทุน ทั้งที่มีพฤติกรรมในการลงบัญชีอันเป็นเท็จ และมีการลงบัญชีไม่ถูกต้องในระดับที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ STARK ตนได้มีหนังสือถึงเลขาธิการ ก.ล.ต.เพื่อดำเนินคดีผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและบริษัทดีลอยท์ ในกรณีละเลยฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 กรณีสตาร์คไปลงทุนซื้อกิจการบริษัทในประเทศเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.จะตอบกลับหนังสือมาสั้นๆ ว่า ยังไม่พบข้อสงสัยเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 89/29 แห่งพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ของ STARK เนื่องจากการปฏิบัติตามประกาศที่ว่าด้วยการได้มาและจำหน่ายทรัพย์สินในการลงทุนในบริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนามนั้น ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ให้ความเห็นชอบประกอบการพิจารณา

จากนั้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ตนได้ทำจดหมายถึงประธาน ก.ล.ต.ขอให้ดำเนินคดีอาญากับผู้สอบบัญชีรับอนุญาต พิจารณาโทษทางจรรยาบรรณ และตรวจสอบระบบควบคุมคุณภาพ ก่อนวันที่ 14 มิ.ย. ก.ล.ต.จะตอบกลับว่า ต้องให้โอกาสผู้สอบบัญชีชี้แจงโต้แย้งอย่างเพียงพอ และปัจจุบัน ก.ล.ต.ไม่มีอำนาจในการกำกับดูแลและลงโทษสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน

’เนื้อหาที่ ก.ล.ต.ตอบหนังสือกลับมายังผู้เสียหายทั้ง 2 ฉบับ ดูเหมือนไม่ให้ความสำคัญกับคำถาม คำตอบไม่ได้ลงในรายละเอียด ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งที่ ก.ล.ต.มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรง และเป็นผู้ให้ความเห็นชอบในการตรวจสอบงบการเงินของผู้สอบบัญชีในตลาดทุน‘

นอกจากนี้ ทนายยังตั้งคำถามว่า กรณี STARK ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 43,525 ล้านบาท เหตุใดถึงมีผู้บริหารอาวุโสตำแหน่งสำคัญที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสและประธานคณะกรรมการของบริษัทดีลอยท์ นั่งเป็นคณะกรรมการ ก.ล.ต.ในคณะปัจจุบัน มีความเหมาะสมหรือไม่ เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และส่งผลให้ ก.ล.ต.ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจนถึงวันนี้ใช่หรือไม่

stark-scandal-update

ด้าน ‘วันทนีย์ กิติมหาคุณ’ หนึ่งในผู้เสียหายที่สูญเสียเงินลงทุนในหุ้นสตาร์คกว่า 10 ล้านบาท กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมายื่นหนังสือถึง ก.ล.ต.อีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เพราะคาดหวังให้เลขาธิการ ก.ล.ต.คนใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นผู้ดูแลหน่วยงานกำกับดูแล ช่วยเร่งรัดกระบวนการให้เกิดความชัดเจนได้รวดเร็วมากขึ้น

แม้มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น จากผู้เสียหาย 78 คน จะสูงถึงหลักหมื่นล้านบาท แต่การดำเนินการค่อนข้างล่าช้า ซึ่งสิ่งที่ตนอยากเห็น คือ ภายหลังยึดทรัยพ์บางส่วนแล้วควรพิจารณาได้แล้วว่าจะมีการเยียวยาผู้เสียหายอย่างไรได้บ้าง

‘ผู้เสียหายส่วนใหญ่ก็มีอายุมากแล้ว เงินลงทุนก็เป็นเงินเก็บ ถ้าสามารถนำทรัพย์สินบางส่วนมาเยียวยาให้ได้ก็จะเป็นการต่อความหวังให้กับผู้เสียหาย รอคอยการตัดสินของศาลที่ใช้เวลานาน ซึ่งส่วนนี้เราเข้าใจได้’

ผู้เสียหายยังกล่าวอีกว่า การยื่นหนังสือถึง ก.ล.ต.ครั้งนี้ สัญญาณความหวังจาก ก.ล.ต.ยังมีเท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มความหวังให้ผู้เสียหายได้เลย เพราะตัวแทนที่มารับหนังสือวันนี้ ยังให้ข้อมูลเช่นเดิม คือ การดำเนินการต้องใช้เวลา แม้ผู้เสียหายพยายามสอบถามถึงกรอบเวลาในการทำงาน ก.ล.ต.ก็บอกมาเพียงว่า จะพยายามให้เร็วที่สุดเท่านั้น

ทั้งนี้ หากไม่มีความชัดเจนจาก ก.ล.ต. กลุ่มผู้เสียหายจะรวมตัวกันยื่นฟ้องในมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยการที่ ก.ล.ต.ละเลยการปฎิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในส่วนของการไม่ดำเนินการกับสำนักงานบัญชีและผู้สอบบัญชี ซึ่งถือเป็นหน้าที่โดยตรงของ ก.ล.ต.

ผู้เสียหายทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ปิดประตูการลงทุนหมดแล้ว เพราะไม่มีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทั้งหุ้นสามัญและหุ้นกู้ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วว่า แม้เครดิตเรทติ้งจะดีมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ก็อาจเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับกรณีของ STARK ได้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า