ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย คดีหุ้นไอทีวี 24 ม.ค. 67 หลังไต่สวนพยาน 3 ปาก รวม ‘พิธา’ เสร็จ

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย คดีหุ้นไอทีวี วันที่ 24 ม.ค. 67 เวลา 14.00 น. หลังวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน รวม 3 ปาก ‘แสวง-พิธา-คิมห์’

วันนี้ (20 ธ.ค. 66) ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาคดี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 23/2566)

กกต. (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส. (เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส. แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ สส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ตำแหน่ง สส. ของผู้ถูกร้อง ว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟัง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2)

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. นับแต่วันที่ 19 ก.ค. 66 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ต่อมาผู้ถูกร้อง ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค. 66 และบัญชีพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค. 66

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนพยานรวม 3 ปาก คือ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยตอบข้อซักถามของศาลและของคู่กรณี คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน ศาลนัดฟังคำวินิจฉัย ในวันพุธ ที่ 24 ม.ค. 67 เวลา 14.00 น.

นายพิธา ให้สัมภาษณ์ หลังเข้าไต่สวนคดีหุ้นไอทีวีว่า ตามที่ได้คาดหวังไว้ รู้สึกพอใจในกระบวนของศาลในการไต่สวนข้อเท็จจริงทุกประการ ในส่วนตนได้รับการไต่สวนข้อเท็จจริงในการยุติการประกอบกิจการสื่อไอทีวีและการเป็นผู้จัดการมรดก วันนี้ได้ไต่สวนทั้งทางฝ่ายผู้ถูกร้อง และผู้ร้องได้ครบถ้วน ซึ่งทางบริษัทไอทีวี มีนายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ไอทีวี ปี 66 กรรมการ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ มาให้การในชั้นศาลด้วยตนเอง

นายพิธา ระบุว่า การชี้แจงในศาลวันนี้ ได้ยืนยันการถือหุ้นบริษัทไอทีวี ลักษณะผู้จัดการมรดก ยืนยันได้สละเจตนาไปแล้วตั้งแต่ช่วงสังกัดพรรคอนาคตใหม่

ส่วนบริษัทไอทีวีจะกลับคืนมาเพื่อประกอบธุรกิจสื่อต่อหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องให้สื่อไปถามนายคิมห์ ประธานในการประชุมวิสามัญการถือหุ้น ไอทีวีปี 2566 จะมีความชัดเจนกว่า แต่หากพิจารณาตามเอกสารเอกสารประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2558, 2560, 2566 มีความชัดเจนว่า บริษัทไอทีวีได้ยุติประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2550 คลื่นความถี่ำด้ไปอยู่กับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสแล้ว ปัจจุบันไม่มีใบอนุญาติประกอบกิจการสื่อ หากจะกลับมาประกอบกิจการสื่อ อาจจะติดเรื่องคดีความและคลื่นความถี่ที่ไม่มี และไม่มีใบอนุญาติสัมปทานจาก กสทช.

อย่างไรก็ตาม นายพิธา กล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกพอใจ และเป็นไปตามที่หวังไว้ทุกประการ วันนี้ได้ทำเต็มที่ และตนมีความมั่นใจ ได้ทำหน้าที่ผู้ถูกร้องอย่างเต็มที่แล้ว มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม ความยุติธรรมในคดีนี้ หวังว่าจะได้กลับไปทำหน้าที่ สส. รับใช้ประชาชนในสภาผู้แทนราษฎร

‘พิธา’ เข้าให้การไต่สวนคดีหุ้นไอทีวี บอกรอวันนี้มานาน จะได้โอกาสสื่อสารข้อเท็จจริง