SHARE

คัดลอกแล้ว

สคบ.แจงประกาศใหม่ ‘ลดต้นลดดอก’ ในการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์-จักรยานยนต์ จะต้องไปยึดโยงกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงรายปี ย้ำมีผลบังคับใช้ 10 ม.ค. 66

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ชี้แจงกรณีมีการประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมมาจากประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาฯ ฉบับปี 2561 ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์

สำหรับอัตราดอกเบี้ยตามประกาศฯ ฉบับนี้ เป็นการคำนวณแบบลดต้นลดดอก แต่คำว่า ลดต้นลดดอก นั้นจะต้องไปยึดโยงกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงรายปี (Effective Interest Rate) เช่น กรณีดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fixed Rate) นั้น จะต้องยึดโยงกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงรายปี คือ การคิด ‘อัตราดอกเบี้ยคงที่’ นั้นๆ จะต้องไม่เกินกว่า ‘อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงรายปี’ ที่กำหนดไว้

โดยผู้เช่าซื้อสามารถตรวจสอบได้จากตารางแสดงภาระหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อท้ายสัญญา ซึ่งจะดูได้ว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นเท่าไร และคำนวณเป็นดอกเบี้ยรายเดือนเท่าไหร่ ถ้าผู้เช่าซื้อไปดูดอกเบี้ยตามสัญญาแนบท้าย แล้วมาคำนวณ ดอกเบี้ยเบ็ดเสร็จจะต้องไม่เกินเพดานที่กำหนด หากเกินเพดานก็ถือว่าผู้ให้เช่าซื้อไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้

ล่าสุด น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ได้แก่ การคิดดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ต้องคิดในอัตราที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) ซึ่งหมายความว่า อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อในลักษณะของการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด และในกรณีที่ยังไม่มีกฎหมายใดกำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไว้เป็นการเฉพาะ ให้กำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ตามกลไกตลาด

การคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) ดังนี้

-กรณีรถยนต์ใหม่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 10 ต่อปี

-กรณีรถยนต์ใช้แล้วต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปี และ

-กรณีรถจักรยานยนต์ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 23 ต่อปี

ทั้งนี้ คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาอาจปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยลดลงหรือเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศในทุก 3 ปี มากไปกว่านั้น ประกาศฯ ฉบับใหม่นี้ยังได้ระบุถึงการคำนวณยอดหนี้ผิดนัด ซึ่งก่อนหน้าผู้ประกอบการบางส่วนนำหนี้ทั้งก้อนไปคิดเป็นเบี้ยปรับ ถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้เช่าซื้อ ดังนั้น ประกาศฯ ฉบับใหม่ จึงได้กำหนดให้คิดเบี้ยปรับได้ไม่เกิน 5% ต่อปี และให้คิดเบี้ยปรับจากยอดหนี้ที่ผิดนัดชำระเท่านั้น ส่วนหนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระผู้ให้เช่าซื้อไม่สามารถนำมาคิดเป็นเบี้ยปรับได้

ในส่วนของการเลิกสัญญาและการยึดรถ ประกาศฯ ฉบับเดิมเขียนไว้ว่า หนี้ที่ยังขาดอยู่ เจ้าหนี้เช่าซื้อสามารถเรียกเก็บจากผู้เช่าซื้อได้ โดยสามารถเรียกเก็บได้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ แต่ประกาศฯ ฉบับใหม่ จะให้คำนวณเฉพาะส่วนหนี้ที่ยังขาดชำระเท่านั้น ไม่สามารถเรียกเก็บหนี้ในอนาคตที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระได้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป ส่วนสัญญาเช่าซื้อฯ ที่ทำขึ้นก่อนวันที่ 10 ม.ค. 2566 จะยังคงเป็นไปตามประกาศฯ ฉบับปี 2561 จึงขอให้ประชาชนที่กำลังจะเช่าซื้อรถยนต์หรือจักรยานยนต์ และผู้ประกอบการทำความเข้าใจกับกฎหมายให้ดี และขอเน้นย้ำว่า วัตถุประสงค์หลักของประกาศฯ นี้ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมานาน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า