‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไม่แตะงบ ธ.ก.ส. แล้ว อนุฯ เคาะเงื่อนไขเพิ่มซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า-โทรศัพท์มือถือ ไม่ได้

‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไม่แตะงบ ธ.ก.ส. แล้ว อนุฯ เคาะเงื่อนไขเพิ่มซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า-โทรศัพท์มือถือ ไม่ได้ ย้ำ นายกฯ เดินหน้าแถลงไทม์ไลน์ 24 ก.ค. นี้ 

วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประธานคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (ดิจิทัลวอลเล็ต) ยืนยันว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะประกาศไทม์ไลน์ วันลงทะเบียน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในวันพุธ ที่ 24 กรกฎาคมนี้

ขณะที่การประชุมคณะอนุกรรมการฯ วันนี้ มีมติกำหนดสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ (Negative List) เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เป็นต้น รวมถึงเสนอทางเลือกการใช้เม็ดเงินจากงบประมาณปี 2567-2568 โดยไม่ต้องใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

ทั้งนี้ ในวันที่ 15 กรกฎาคม นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อหาข้อสรุปทั้งหมด ก่อนจะเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา

สำหรับคุณสมบัติ ยังคงเดิม คือ อายุ 16 ปีขึ้นไป โดยจะเริ่มตัด ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 กำหนดเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท โดยตัดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 และรายได้ต่อปี 840,000 บาท ณ รายได้ปีภาษี 2566

ด้านกระบวนการใช้จ่ายแบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบแรก ประชาชนต่อร้านค้า ใช้ในพื้นที่อำเภอโดยไม่มีเปลี่ยนแปลง ให้ใช้ในร้านค้าระดับสะดวกซื้อลงไป รอบที่ 2 คือ ร้านค้าต่อร้านค้า จะไม่กำหนดรัศมี เขตพื้นที่ ขนาดร้านค้า โดยมีเงื่อนไขว่าร้านค้าที่เข้าร่วมจะต้องอยู่ในระบบฐานภาษี และจะต้องผูกเบอร์ในระบบรายเดือนเท่านั้น โดยเป็นข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อมีเหตุสามารถตามตัวได้

ส่วนเรื่องของแหล่งเงิน ล่าสุด สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง มีข้อเสนอเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นจะให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการดังกล่าวพิจารณา คือ จะใช้เงินจากงบประมาณปี 2567 และปีงบประมาณ 2568 ซึ่งในปี 2567 ประมาณการว่า จะตั้งงบประมาณ 160,000 กว่าล้านบาท ประกอบด้วยงบประมาณเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาท และเงินส่วนอื่นอีก 43,000 กว่าล้านบาท

ขณะที่งบประมาณปี 2568 ประกอบด้วย เงินงบประมาณ 152,700 ล้านบาท และการบริหารจัดการส่วนอื่นๆ 132,300 กว่าล้านบาท ส่งผลให้จะมีวงเงินสำหรับใช้ในโครงการเบื้องต้น ประมาณ 450,000 ล้านบาท

สำหรับการเตรียมเงินรองรับ 450,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากผลการศึกษา ภายหลังจากที่ผ่านมาข้อห่วงใยจากหน่วยงานตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ส่งหนังสือมายังคลัง ในการจัดตั้งงบประมาณที่มีความเหมาะสม โดยการตั้งงบประมาณที่มากเกินไปจะทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาส่วนอื่น ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษา และจากการศึกษา พบว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่เคยมีโครงการใดของรัฐ ไม่ว่าคนละครึ่ง โครงการอื่นๆ ที่มียอดผู้มาใช้สิทธิเกิน 90% ส่วนใหญ่อยู่ที่ 80%

“เบื้องต้นเตรียมเงินรองรับแล้ว 450,000 ล้านบาท จากเงินงบประมาณ ซึ่งเป็นข้อเสนอของสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง ที่จะเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณา โดยเมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะใช้มาตรา 28 หรือการใช้เงินงบประมาณของหน่วยงานของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. อาจไม่มีความจำเป็น เพราะมี พ.ร.บ.งบเพิ่มเติม มีการบริหารจัดการ ซึ่งอยู่ในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ การใช้งบกลาง การใช้งบที่หน่วยงานใช้ได้ไม่ทันหรือผูกพันไม่ได้ อยู่ในกรอบที่สำนักงบบริหารจัดการได้ โดยไม่กระทบกับงานใดๆ ส่วนวงเงินจะมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้จะต้องรอดูวันที่ปิดลงทะเบียนอีกครั้ง” นายจุลพันธ์ กล่าว

‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ นายกฯ เตรียมประกาศวันลงทะเบียน ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

3 ช่องทางแหล่งเงิน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ แจกเงินหมื่นคนไทย 50 ล้านคน ปลายปีนี้