ผอ.ร.ร. รับครูกล้อนผมเด็กเพราะไว้ยาว ไม่ตั้งใจประจานแผล ขอโทษยายเด็กแล้ว

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก “กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท” โพสต์ข้อความว่า ได้รับการร้องเรียนว่า มีเด็ก ม.1 จากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น ถูกคุณครูฝ่ายกิจการนักเรียนไถผมด้านหน้าจนแหว่งเป็นหย่อมๆ โดยตัวเด็กเองก็มีปมเรื่องใบหน้าที่เป็นแผลเป็นจากการถูกไฟไหม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีคุณครูหลายท่านเห็นใจ และคิดว่าการลงโทษเช่นนี้จะยิ่งตอกย้ำปมด้อยด้านรูปลักษณ์ให้กับเด็ก แต่ก็ไม่สามารถโต้แย้งได้เพราะไม่อยากมีเรื่องกับคุณครูฝ่ายกิจการนักเรียน

วันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนโคกโพธิ์ชัยศึกษา ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานศึกษาขนาดกลาง เปิดสอนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาชั้น ม.1 – ม.6 มีนักเรียนกว่า 500 คน เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางผู้อำนวยการโรงเรียน

นายสุริยันต์ เหล่ามะงึก ผู้อำนวยการโรงเรียน

นายสุริยันต์ เหล่ามะงึก ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ช่วงเช้าวันที่ 20 ส.ค. หลังเข้าแถวเคารพธงชาติ ครูฝ่ายปกครองได้ตรวจทรงผมของนักเรียน ม.1 โดยครูได้คัดเด็กนักเรียนที่มีผมยาวผิดระเบียบออกมาเพื่อทำข้อตกลงกับนักเรียนเรื่องทรงผมก่อน จึงหนีบผมนักเรียนเพื่อเป็นการตักเตือนและควบคุมเรื่องทรงผมนักเรียนให้ตรงตามระเบียบของทางโรงเรียน

ในวันนั้นทางคุณครูก็ได้หนีบผมน้องอ้น นักเรียนชั้น ม.1 บริเวณศีรษะด้านหน้าซึ่งพบว่าน้องอ้นมีแผลเป็นบริเวณหน้าผากที่เกิดจากการถูกน้ำมันลวกตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ซึ่งน้องก็พยายามไว้ผมยาวเพื่อปิดบังแผลเป็นดังกล่าว คุณครูก็ตกใจเมื่อเห็นแผล แต่หลังจากนั้นมีผู้ถ่ายภาพน้องอ้นไปโพสต์และแชร์ในโซเชียลต่างๆ

“หลังจากทราบเรื่อง ได้เดินทางไปยังบ้านของน้องอ้นพร้อมคุณครู เพื่อไปรับคุณยายของน้องอ้นมาชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งทางยายของน้องอ้นบอกกับทางคุณครูว่า การกระทำของทางโรงเรียนอาจจะเกินไปหน่อย แต่ในฐานะผู้ปกครองนักเรียนก็ขอบคุณคณะครูที่ได้ดูแลเด็กๆ ให้ปฎิบัติตนตามระเบียบของทางโรงเรียนให้ถูกต้อง ซึ่งทางผู้ปกครองก็ไม่ได้ติดใจเอาความ เนื่องจากน้องอ้นเป็นเด็กที่มีฐานะค่อนข้างยากจน ทางโรงเรียนก็ได้ดำเนินการขอทุนเพื่อการศึกษา และละเว้นการเก็บค่าบำรุงการศึกษาในการช่วยเหลือน้องอ้นด้วย”

ส่วนเรื่องที่ว่าทางคุณครูให้เงินนักเรียน 120 บาท เป็นค่าปิดปาก ความจริงก็คือคุณครูให้เงินกับน้องจำนวน 120 บาท เพื่อให้น้องอ้นไปตัดผม เนื่องจากน้องมีฐานะยากจน และทางโรงเรียนก็ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับครูฝ่ายปกครองทุกคนด้วย