SHARE

คัดลอกแล้ว

ความคืบหน้ากรณีรถกระบะที่นำนักศึกษาเทคนิคที่เลิกจากงานเลี้ยงฝึกงานเสร็จสิ้นและดูคอนเสิร์ตหมอลำกลับที่พัก เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่าง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 6 คน บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

วันที่ 30 ก.ย. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้สอบปากคำผู้ที่ขับขี่รถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุ เพราะยังพักรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้องไอซียู โดยต้องรออาการดีขึ้นกว่านี้ ส่วนผู้บาดเจ็บที่สามารถให้ปากคำได้ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปพบ ขณะที่พยานอื่นๆก็ขอเวลาจัดการเรื่องงานศพเสร็จสิ้นก่อนที่จะเดินทางเข้ามาให้ปากคำ ในส่วนของรถคันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้ามาเก็บหลักฐานและตรวจพิสูจน์เรื่องความเร็วเพื่อประกอบการสอบสวน

ผกก.สภ.บางแก้ว ยืนยันด้วยว่า ข่าวที่บอกว่าผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ศพ ไม่เป็นความจริง ผู้เสียชีวิตยังคงเดิมที่ 13 คนและผู้บาดเจ็บ 6 คนก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนการตรวจระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ ผลตรวจเมื่อ 29 ก.ย. แอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ 38 mg/dl  ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

ด้านบิดาของผู้ขับรถกระบะคันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า แพทย์เอ็กซเรย์ลูกชายวัย 27 ปีแล้ว ระบุว่าอาการดีขึ้น แต่ยังต้องตรวจดวงตาอย่างละเอียด ลูกชายเพิ่งรับทราบเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเสียใจมาก เขาบอกว่าเขาอยากตาย เหมือนที่เพื่อนๆ เขาตาย เพราะแม้เขาจะมีชีวิตอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น เขานอนน้ำตาไหล เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ได้แต่บอกว่า ให้ทำใจ เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วแก้ปัญหากันไป

เมื่อถามว่าลูกชายได้เล่าถึงเหตุการณ์หรือไม่ พ่อคนขับกระบะบอกว่า เท่าที่สอบถามลูกชายบอกว่ารถคันหน้าขับช้า เขาเลยขับแซง แต่พอแซงแล้วเจอรถอยู่ข้างหน้าเลยหักหลบแล้วก็เสียหลัก จากนั้นก็ไม่รู้เรื่องเลย ปกติลูกชายก็ดื่มบ้างแต่ไม่บ่อย จากการสอบถามลูกชายว่าวันเกิดเหตุเมาหรือเปล่า เขาตอบว่าไม่ได้เมาจนครองสติไม่อยู่ โดยทางบริษัทได้มีงานเลี้ยง  หลังจากเลิกงานเลี้ยงก็ชวนกันไปดูหมอลำ แต่กลัวจะมีเรื่องจึงพาน้องๆ กลับ เพราะถ้าอยู่ต่อต้องมีเรื่องแน่ๆ เลยต้องรีบกลับ ส่วนลูกชายอีกคนนั่งอยู่หลังคนขับก็ได้รับบาดเจ็บด้วย

บิดาของผู้ขับรถกระบะ กล่าวด้วยว่า ตนจะเดินทางไปศรีสะเกษเพื่อไปเคารพศพผู้เสียชีวิต ตนเองเสียใจกับผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ถึงลูกชายตนเองก็รอดตนเองก็ไม่ได้ดีใจ และเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูภาพแล้วพูดไม่ออก ขอโทษครอบครัวผู้สูญเสียทั้งหมดและพยายามไปดูแลผู้สูญเสียจะทำเท่าที่ตนองทำได้และต้องขอโทษแทนลูกชายด้วย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า