ความคืบหน้ากรณีรถกระบะที่นำนักศึกษาเทคนิคที่เลิกจากงานเลี้ยงฝึกงานเสร็จสิ้นและดูคอนเสิร์ตหมอลำกลับที่พัก เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่าง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บสาหัส 6 คน บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
วันที่ 3 ต.ค. ที่ สภ. บางแก้ว จ.สมุทรปราการ พนักงานสอบสวนได้นำตัว นายนิตยา สุขจันทร์ อายุ 27 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุ มาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา 1. ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน 3.ใช้รถยนต์ไม่ตรงกับประเภทที่จดทะเบียนไว้ 4. ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจและได้รับบาดเจ็บสาหัส
จากการสอบสวน นายนิตยา คนขับรถกระบะ กล่าวว่า ตนยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยก่อนเกิดเหตุตนและน้องๆ ได้พากันไปดูหมอลำซิ่งที่ซอย 2 หลังหมอลำเลิกและกำลังจะกลับที่พักได้มีการขว้างปาขวดกันใกล้บริเวณที่พวกตนจอดรถอยู่ ตนจึงรีบพาน้องๆ ขับรถกลับที่พัก โดยตนยอมรับว่าขับรถมาด้วยความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และก่อนถึงที่เกิดเหตุได้แซงรถอย่างกะทันหันจนรถเกิดเสียการทรงตัวพลิกคว่ำจนเกิดเหตุสลดขึ้น ตนเองเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว กล่าวว่า วันนี้ได้นำตัวนายนิตยา มาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนผลการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ 38 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แม้จะไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 21 (พ.ศ.2560) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ระบุว่า ถ้าหากผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว ถ้าแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัม เข้าข่ายขับรถขณะมึนเมา ซึ่งกรณีของนายนิตยา เป็นใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวเข้าเกณฑ์นี้