ส.ส.วิโรจน์ ไม่ถอย แม้ ส.ผู้บริหาร ร.ร.มัธยมขู่แบน เหตุวิจารณ์ครูกล้อนผมเด็กว่าอาชญากร

วิโรจน์ พรรคก้าวไกล ยืนยันไม่ถอนจุดยืนปกป้องไม่ให้เด็กถูกคุกคาม หลังสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาฯ ขู่จะแบนทั้งพรรคหากไม่ขอโทษ กรณี วิโรจน์ แถลงตำหนิครูที่กล้อนผมเด็กว่าควรเรียกตัวเองว่าอาชญากร

วันที่ 12 ก.ค. 2563 เฟซบุ๊ก ‘สบมท สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย’ ได้เผยแพร่ แถลงการณ์ของสมาคม ที่ลงนามโดย นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมฯ ใจความสำคัญคือ ไม่พอใจกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงถึงครูรายหนึ่งที่ลงโทษนักเรียนหญิงโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบโดยใช้กรรไกรกล้อนผม โดยได้เรียกร้องให้ครูคนดังกล่าวลาออกจากการเป็นครู และควรเรียกตัวเองว่าอาชญากร

สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย ระบุว่า พฤติการณ์ของข้าราชการครูรายดังกล่าวผิดระเบียบสมควรได้รับการลงโทษทางวินัย แต่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าพฤติการณ์เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่เป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้ที่มีความเสียสละต่อทางราชการ เป็นผู้ที่มีความห่วงใยและใส่ใจนักเรียน และมีความตั้งใจสูงที่จะทำให้นักเรียนมีวินัยในตนเอง ยอมที่จะให้นักเรียนโกรธหรือชิงชังเพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบและมีวินัย ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดๆ ว่าข้าราชการครูรายดังหล่าวเป็นโรคจิต โรคประสาท ที่ไปทำร้ายเด็กนักเรียนหรือเป็นผู้ที่มีความอาฆาตแค้นและกลั่นแกล้งนักเรียนแต่อย่างใด

https://www.facebook.com/103806714542175/photos/a.104974047758775/164909658431880/?type=3&theater

การที่นายวิโรจน์ กล่าวหาจึงเป็นการกล่าวหาที่รุนแรง เกินความจริง ใช้อารมณ์ในการวิพากษ์วิจารณ์ไม่เหมาะสมกับการเป็นกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการครูที่ต้องการให้นักเรียนมีวินัยในตนเอง การกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร ถือว่ากล่าวหาเป็นคนชั่วคนเลวเทียบเท่าฆาตกรที่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์

แถลงการณ์ระบุเรียกร้องให้นายวิโรจน์ ถอนคำพูดและกล่าวคำขอโทษ และขอให้พิจารณาตัวเองในการเป็น กมธ.การศึกษา หากไม่ดำเนินการ สมาคมจะร่วมกับองค์กรครูอื่นๆ ไม่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของพรรคการเมืองที่นายวิโรจน์สังกัด

ด้านนายวิโรจน์ รีทวีตข้อความในทวิตเตอร์ของผู้ที่เห็นด้วยกับตนเองว่าการตัดกล้อนผมนักเรียนเป็นอาชญากรรม พร้อมระบุข้อความว่าขอบคุณที่ช่วยกันปกป้องเด็ก

และได้ทวีตข้อความเมื่อเวลา 15.40 น. ว่า

“ถ้าต้องถอนจุดยืนในการปกป้อง ไม่ให้เด็กถูกคุกคาม และถูกกระทำทารุณกรรม ตาม ม.26 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ถ้าต้องยอมให้เพื่อนครูที่ดีอีกหลายคน และวิชาชีพครู ต้องพลอยมัวหมองไปกับการกระทำของครูที่ผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ เพียงไม่กี่คนผมคงจะพูดเรื่องการศึกษาไทยก้าวหน้า ไม่ได้อีกต่อไป”

“ผมยังคงเชื่อมั่นว่าครูส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ไม่เห็นด้วยกับการคุกคาม และการกระทำทารุณกรรมต่อเด็กนักเรียน ของครูเพียงไม่กี่คน ผมเชื่อว่านี่จะเป็นโอกาสอันดีที่ครู พ่อแม่ และสังคม จะช่วยกันออกมาปกป้องเด็กๆ ของพวกเรา ให้พวกเขาได้อยู่ในรั้วโรงเรียนอย่างปลอดภัยครับ”