Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ร่วมมือกับ ศิลปิน ดารานักแสดง ชวนคนไทย บริจาคช่วยเด็กด้อยโอกาสที่ต้องการความเหลือมากที่สุด ชี้ การช่วยเด็กด้อยโอกาส เป็นเรื่องจำเป็น เร่งด่วนและรอไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กยากจนที่สุดมีรายได้เฉลี่ยต่ำสุดเพียง 462 บาทต่อคนต่อเดือน เสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษาทุกวัน

วันที่ 13 ธ.ค. 62 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เปิดโครงการ “ล้านพลังคนไทย มอบโอกาสทางการศึกษาเป็นของขวัญ” เพื่อชวนคนไทยร่วมบริจาคเงินสมทบเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะความยากจน โดยมีศิลปินดาราร่วมรณรงค์ อาทิ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ มาร์กี้-ราศรี จิราธิวัฒน์ ,หนึ่ง จักรวาล และน้องมินมินลูกสาว ในงานยังมีคอนเสิร์ตเปิดหมวกมอบโอกาสเป็นของขวัญ นำโดย ลุลา ซีซั่นไฟว์ มาเรียมบีไฟว์ และ รุจเดอะ สตาร์

​ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือบรรเทาอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาให้กับเด็กยากจนด้อยโอกาส มากกว่า 7 แสนคน ผ่านโครงการเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข หรือทุนเสมอภาค แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะจากการประเมินของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา หรือ กอปศ. พบว่า กลุ่มเป้าหมายตามภารกิจมีมากกว่า 4 ล้านคน และจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรด้านงบประมาณมากกว่าปีละ 25,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมาได้รับการจัดสรรทรัพยากรเพียง 2,537 ล้านบาทหรือเพียง 10% ของงบประมาณที่ควรจะได้รับตามภารกิจเท่านั้น

จากการติดตามเด็กกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดผ่านระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา Information System for Equitable Education (iSEE) พบว่า ครอบครัวของนักเรียนที่ยากจนที่สุด มีรายได้เฉลี่ยต่ำสุดเพียง 462 บาทต่อคนต่อเดือน หมายความครอบครัวของเด็กกลุ่มนี้จะมีรายได้เพียง 5,544 บาทต่อปีหรือราว 15 บาทต่อคนต่อวันเท่านั้น เด็กกลุ่มนี้กว่า 2 แสนคนที่กำพร้าไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ และกว่า 19,000 คนมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์การเจริญเติบโต หรืออยู่ในภาวะที่จำเป็นต้องติดตามสภาวะทุพโภชนาการอย่างใกล้ชิด จากการสำรวจยังพบว่า ในจำนวนนี้เกือบครึ่งที่ไม่ได้ทานอาหารเช้า สาเหตุมาจากฐานะยากจน และต้องช่วยพ่อแม่ทำงานก่อนมาเรียน เด็กกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน และข้อเท็จจริงชี้ชัดว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ทันท่วงทีและพอเพียง มีความเสี่ยงที่จะหลุดจากการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ที่สำคัญเด็กเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษากำลังเพิ่มสูงขึ้นโดยมีมากถึง 430,000 คน (อายุระหว่าง 6-14 ปี/ป.1-ม.3) และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปีในอนาคต มีข้อมูลระบุชัดว่าแนวโน้มการออกจากระบบการศึกษาของเด็กไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะตัวเด็กเองและครอบครัว แต่ยังเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมของประเทศ ดังนั้น โอกาสที่สูญเสียไปทางการศึกษาของเด็กๆกลุ่มนี้ ก็คือโอกาสที่สูญเสียไปของประเทศเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมปัญหานี้จึง จำเป็น เร่งด่วนและรอไม่ได้ และลำพังเพียงกสศ.และงบประมาณแผ่นดินที่จำกัดอาจไม่สามารถช่วยเด็กทุกคนได้ทันเวลา การสนับสนุนเพิ่มเติมจากประชาชนคนไทยจะเป็นพลังสำคัญในการทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเหล่านี้ให้มีแนวโน้มลดลงอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต

โดยอดีตรองผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก Dr.Nicholas Burnett เคย ประเมินว่าปัญหาเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษา สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยมากกว่าปีละ 1-3 % ของ GDP หากมองในมิตินี้ การลดความเสี่ยงและรักษาเด็กไว้ในระบบการศึกษา จึงไม่เพียงช่วยสร้างโอกาสในอนาคตของเด็กๆ แต่ยังสร้างผลกระทบทางบวกในการพัฒนาประเทศในภาพรวม นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลในปีนี้อย่าง Professor Abhijit Banerjee และ Professor Esther Duflo สรุปบทเรียนจากการศึกษาพัฒนาการทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ ทั้งที่ประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ จากทุกมุมโลกมาตลอดหลายทศวรรษ ไว้อย่างน่าสนใจใน Foreign Affairs ฉบับล่าสุดว่า แนวทางหนึ่งที่ดีที่สุด (The Best Bet) ในการพัฒนาประเทศ อาจมิใช่การมุ่งอัดฉีดเงินผ่านการกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่คือการยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ผ่านการลงทุนในการศึกษาและการสาธารณสุข ซึ่งจะนำไปสู่การเจริญเติมโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงและยั่งยืนในอนาคต

ด้าน ป๊อก-ภัสสรกรณ์ และ มาร์กี้-ราศรี จิราธิวัฒน์ กล่าวว่า การร่วมบริจาคกับ กสศ. สิ่งที่แตกต่างคือ มั่นใจได้ว่า มีระบบที่เป็นเครื่องมือช่วยชี้เป้าความช่วยเหลือ มุ่งไปยังเด็กๆที่เดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ลงลึกตั้งแต่ระดับ จังหวัด อำเภอ ตำบล โรงเรียน และข้อมูลปัญหาความต้องการรายบุคคล ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหนก็ตามในประเทศไทย บางครั้งในทริปท่องเที่ยว ระหว่างเส้นทางในช่วงปีใหม่เรายังสามารถแบ่งปันโอกาสให้กับเด็กๆกลุ่มนี้ได้ด้วย เราทั้งคู่สามารถยื่นมือไปเติมเต็มความช่วยเหลือได้ทันที และมั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือจะมุ่งไปถึงเด็กๆอย่างแน่นอน เพราะสามารถติดตามผลลัพธ์การช่วยเหลือได้จนกว่าเด็กๆรายคนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานได้อีกด้วย ทั้งนี้ทุกเงินบริจาคยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เพราะ เหนือความยากลำบาก สิ่งสำคัญที่ทั้งคู่ประทับใจ คือ ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในของเด็กๆกลุ่มนี้ ความมุมานะ และพยายามจนสุดตัวที่จะมาเรียนหนังสือให้ได้ ในช่วงเทศกาลแห่งการให้และก้าวสู่ปีใหม่นี้ จึงขอเชิญชวนคนไทย ร่วมทำบุญครั้งสำคัญกับพวกเราและ กสศ.ในโครงการ ล้านพลังคนไทยมอบโอกาสทางการศึกษาเป็นของขวัญ เพื่อน้องๆที่มีความฝัน และมีศักยภาพ ได้มีอนาคตดีขึ้น และไม่ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า