‘คุณหญิงสุดารัตน์’ เปิดใจครั้งแรกลาออกไม่เกี่ยว ‘คุณหญิงพจมาน’ ไม่สังฆกรรมรบ.แห่งชาติ

‘คุณหญิงสุดารัตน์’ เปิดใจครั้งแรกลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยวกระแสข่าว ‘คุณหญิงพจมาน’ จะมาบริหาร ยันไม่ร่วมสังฆกรรมรัฐบาลแห่งชาติ 

วันที่ 29 ก.ย. 2563 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ปรับโครงสร้าง เพราะการทำงานต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่ยืนยันยังเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยที่พร้อมยืนทำงานดูแลทุกข์สุขของประชาชน และจะต่อสู้ร่วมกับประชาชนเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ผู้มีอำนาจยอมเสียสละ เพราะเห็นว่า การแก้ไขบ้านเมืองอย่างสันติมีทางเดียว คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยากให้ผู้มีอำนาจร่วมหาทางออก แต่ทั้งนี้ ส.ว. ยังเป็นใจกลางของปัญหา จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออก พร้อมย้ำว่า เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างครั้งนี้ แต่ไม่ขอรับตำแหน่ง หลังมีกระแสข่าวว่าถูกทาบทามให้เข้าร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เชื่อว่า มิติการทำงานของพรรคก็จะเดินหน้า และเชื่อว่า กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะบริหารงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการลดบทบาท เพราะงานภายในพรรคยังมีอีกหลายเรื่อง และหลังจากนี้จะได้เดินหน้าลงพื้นที่ดูแลประชาชนได้มากขึ้น

ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า หลังจากนี้จะลงรับสมัครผู้ว่า กทม. นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า ตนทำหน้าที่สรรหาผู้ที่จะมาทำหน้าที่เปลี่ยนกรุงเทพฯ ทั้งคนที่จะมาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม., สภากรุงเทพมหานคร และทีมงาน พร้อมยืนยันด้วยว่า การลาออกจากประธานยุทธศาสตร์ของพรรคไม่ได้ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร จะเข้ามาบริหารพรรคเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจลาออกจากประธานยุทธศาสตร์หรือไม่นั้นว่า ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจลาออก และยังไม่ทราบข้อท็จจริงว่า คุณหญิงพจมานจะเข้ามาดูแลพรรคจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ส่วนการลาออกครั้งนี้เพื่อไปร่วมรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า ตั้งแต่เป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ได้พูดหลายครั้งว่า รัฐบาลแห่งชาติไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และไม่มีทางไปร่วมสังฆกรรม เพราะได้พิจารณาแล้วว่า การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นการยื้อเวลาเท่านั้น และไม่เป็นประโยชน์ เพราะมองว่าทางออกของปัญหาคือการแก้รัฐธรรมนูญ