SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุป ‘ไพรวัลย์’ ลาออกกลางรายการ นินทาประเทศไทย

กลายเป็นประเด็นร้อนข้ามคืน เมื่อ ‘ทิดเอก ไพรวัลย์’ หรือ อดีตพระมหาไพรวัลย์ ประกาศลาออกจากการเป็นผู้จัดรายการ ‘นินทาประเทศไทย’ ของน้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา พิธีกรชื่อดัง

รายการ ‘นินทาประเทศไทย’ เป็นรายการทอล็คทางออนไลน์ ที่จะหยิบประเด็นที่คนในสังคมกำลังให้ความสนใจมาแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสร้างสรรค์โดยผู้จัดรายการ 4 คน คือ น้าเน็ก, ดีเจหมึก ควันธรรม, ได๋ ไดอาน่า และทิดเอก ไพรวัลย์ ในคอนเซปต์ All Generations ซึ่งคืนวันศุกร์ที่ 28 ม.ค. เป็น EP.2

ก่อนเริ่มรายการ ทางเพจเฟซบุ๊ก Nanake555 ได้โพสต์ โปรโมทรายการ พร้อมเชิญชวนให้ผู้ติดตาม “เสนอประเด็น” ในการพูดคุย แต่ปรากฏว่ามีคอนเมนต์หลายพันคอมเมนต์แสดงความเห็นถึง ‘ไพรวัลย์’ เช่น

“เอาไพรวัลย์มาก็ลาก่อนครับน้า คนแบบนี้มีค่าอะไรให้น่าเชื่อถืออีก ตอนเป็นพระสอนคนอื่นให้เข้าใจโลกเข้าใจชีวิต แต่พอสึกออกมาไอ้ที่สอนคนเป็นล้าน เป็นพระนักเทศน์เบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย กลับกลายเป็นแค่คนปากจัดธรรมดาคนนึงเท่านั้น เดี๋ยวแฟนคลับพี่แกจะมาบอกว่า ก็ตอนนั้นเป็นพระแต่ตอนนี้เป็นคนธรรมดา ก็ใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดาสิ แต่อย่าลืมนะครับตอนไพรวัลย์เทศน์ เทศน์สอนคนปกติธรรมดานะครับ ไม่ใช่เทศน์สอนพระสอนเณร ฝากไปบอกด้วยว่ายังไม่เคยใช้ชีวิตทีหลังอย่าสะเออะไปสอนคนอื่น ผมบอกพี่แกไม่ได้เพราะโดนแบน 555 หวังว่าจะไม่โดนแบนจากน้าเน็คนะครับ อิอิ”

ซึ่งทางเพจ Nanake555 ได้ตอบกลับไปว่า “พี่ว่าจะคุยประเด็นนี้กับแก ไม่รู้ว่าแกจะคุยมั๊ย”

เวลา 19.00 น. ผู้จัดการรายการทั้ง 4 คน เปิดไมค์เริ่มดำเนินรายการ น้าเน็ก เริ่มนำเข้าสู่รายการโดยย้ำคอนเซปต์ของรายการ จากนั้นได้พูดถึงการโพสต์โปรโมทรายการ ใน EP.2 โดยบอกว่าสิ่งที่อยากได้จากโพสต์คือ อยากรู้ว่าคนที่ติดตามคอนเทนต์นี้อยากจะให้พูดเรื่องอะไรบ้าง แต่จากทั้งหมดกว่า 4,500 คอมเมนต์ ไม่มีใช่คนสนใจเรื่องชาติบ้านเมืองเลย ประเด็นไปอยู่ที่ ‘ทิดเอก’ 1 ใน 4 ผู้จัดรายการ

(ภาพจากรายการ นินทาประเทศไทย วันที่ 28 ม.ค. 2565)

โดยสรุป น้าเน็ก บอกว่า ประเด็นในคอมเมนต์โดยมากผิดหวัง ตกใจ หมดศรัทธาในจุดยืน เพราะเบื้องต้นคนที่มาชอบด้วยความพระสงฆ์หัวก้าวหน้า เป็นปากเป็นเสียงแก่คนรุ่นใหม่ ถ่ายทอดธรรมะที่แตกต่างจากที่เคยสัมผัส นอกจากนี้ยังมีเรื่องพูดก่อนสึกว่าถ้าถอดผ้าเหลืองเมื่อไหร่เรื่องเกี่ยวกับสำนักสงฆ์ สำนักพุทธจะแจงให้ยับเลยทีเดียว ซึ่งผู้คนรอคอย จากนั้นน้าเน็กได้ถาม ‘ไพรวัลย์’ ว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้

ทาง ‘ไพรวัลย์’ ได้ตอบว่า “ผมรู้สึกว่าคนมีสิทธิ์ที่จะคาดหวังผมในมติไหนก็ได้ ในมุมมองแบบไหนก็ได้ อยากจะให้ผมเป็นอะไรก็ได้ แต่ในชีวิตนี้เนี่ย จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าผมเป็นยังไง นั่นก็คือตัวผมเอง ตั้งแต่สมัยผมเป็นพระ ผมใช้เฟซบุ๊ก ผมสมัครเพจมา ผมแสดงอัตลักษณ์ และความเป็นตัวตนของผมชัดเจนมาก ถ้าใครเคยติดตามผมในยุคแรกๆ เพจผมไม่ได้มีไว้สำหรับ การ Call Out อย่างเดียว การพูดประเด็นสาธารณะ
การพูดเรื่องสังคม ศาสนา การเมือง หลายครั้งผมเป็นคนที่ฮามาก โจ๊กมาก เป็นพระที่หลายคนมองว่า ไม่เป็นพระด้วยซ้ำ ผมก็ถูกด่าบ่อย ผมไม่ใช่พระในอุดมคติของคน ที่คาดหวังว่า พระควรจะเป็นอย่างงี้มาตั้งนานแล้ว”

“ตั้งแต่สมัยผมเป็นพระแล้ว ฉะนั้นข้อหาหรือสิ่งที่คนกำลังพูดถึงผมตอนนี้ว่า สึกออกมาแล้วเหมือนไม่ได้อะไรเลย อะไรประมาณนี้ 18 ปี ไม่มีอะไรเลย หรือไม่เหมือนคนเคยบวชมาเลย หรือผิดหวังในความเป็นพระ
ผมว่าถ้าเขาจะผิดหวัง ควรผิดหวังตั้งแต่ตอนนั้น เพราะผมก็ชัดตั้งแต่ตอนนั้นว่า ผมมันเป็นคนอินดี้ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ใน control ของใคร เรื่องไหนถ้าผมอยากพูด ผมพูดเอง แต่ถ้าเมื่อไหร่มีคนบอกว่า “มึงต้องพูด กูไม่พูด” ผมจะชัดอย่างนี้ “ถ้ามึงบอกให้กูพูด กูไม่พูด” แต่ถ้ากูเห็นสมควรว่ากูจะพูด หรือมีประเด็นให้พูดผมจะพูด ผมจะเป็นคนอย่างนี้ตลอด”

(ภาพจากรายการ นินทาประเทศไทย วันที่ 28 ม.ค. 2565)

นอกจากนี้ ‘ไพรวัลย์’ ยังชี้แจงเรื่องบล็อกคอมเมนต์ในเพจของตัวเอง หรือ “แขวน” (การโพสต์บางคอมเมนต์ที่ส่งมาถึงตนเอง) ว่า

“นักวิชาการบางคนที่บอกว่าตัวเองเป็นหัวก้าวหน้าสุดๆ ก็รับแต่คอมเมนต์ที่เห็นด้วยกัน ก็บล็อกคนเห็นต่างเหมือนกันผมไม่อยากเอ่ยชื่อว่าคนๆ นั้นคือใคร ดูเหมือนเป็นคนหัวหน้าก้าวหน้ามากเลย เป็นผู้นำมีอิทธิพลทางความคิดเช่นเดียวกับผม ผมรู้สึกว่าพื้นที่เพจเป็นพื้นที่ของผม ผมจะจัดสรรพื้นที่อย่างไรก็ได้ตามที่ผมเห็นสมควร ผมถามว่าการที่ผมบล็อกใครสักคนในเพจ เขาไม่สามารถด่าผมบนแพลตฟอร์มหรือพื้นที่อื่นๆ ได้เหรอ
เขาก็เสียบผมในที่อื่น บางเพจเอาผมไปตัดต่อล้อเลียนรูปโน่นนี่กันสนุกสนานเลย ตัดบางอันไป Tiktokวันนี้ผมก็เห็นมีคนส่งมาให้ผมดู ผมไปตามจัดการกับคนนั้นในพื้นที่อื่นเหรอ ไม่ ผมแค่รู้สึกว่านี่คือบ้านผม เพจคือบ้านผมต่อให้ผมจะเปิดให้คนโน่นคนนี้เข้ามาแต่มันคือพื้นที่ของผมบ้านผม ผมบล็อกคุณ คุณก็ด่าผมบนเพจคุณก็ได้ หรือจะตามด่าในเพจน้าเน็กก็ยังได้ ผมคิดว่าผมมีสิทธิ์ที่จะทำ”

อย่างไรตาม เมื่อการพูดคุยชี้แจงระหว่างผู้จัดการรายการทั้ง 4 คนดำเนินไปถึงช่วงหนึ่ง ‘น้าเน็ก’ ได้ถาม ‘ไพรวัลย์’ ว่า มีอะไรอยากพูดแล้วแล้วตนยังไม่ได้ถามหรือไม่

ทาง ‘ไพรวัลย์’ ได้กล่าวตอบว่า “จริงๆ ทุกอย่างผมก็อธิบายทุกครั้งไปแล้ว อธิบายชัดในเพจผม คนจะชอบบอกว่า ผมแขวนแต่ผมคิดว่านั่นคือพื้นที่เดียว ถ้าผมไม่ใช้เพจผมในการอธิบาย ผมจะใช้พื้นที่ไหนในการพูด เหมือนเรามีไมค์อยู่หน้าปาก แต่ไม่ใช้ไมค์ของตัวองในการพูดแล้วจะไปใช้ไมค์อันไหน จะไปหยิบ ไปยืมไมค์ของใคร ฉะนั้นพื้นที่เดียวที่จะปกป้องตัวผมเองได้ ก็คือเพจของผม และผมก็เลือกที่จะทำมัน แต่วันนี้ขออนุญาต นั่งรถมากับเลขาฯ ผมไม่ได้ว่าทำเป็นไม่สนใจ ผมไม่ได้ห่วงแค่ผมผมก็รู้ว่าจะต้อมี Impect อะไรบางอย่างแน่ที่จะเกิดขึ้นกับรายการนี้ ผมคุยกับเลขาฯ ตั้งแต่ในรถแล้วว่า เดี๋ยวผมขึ้นมาผมจะคุยกับน้า ผมยินดีที่จะมูฟไป เพื่อให้ใครสักคนที่ แฟร์กว่านี้ หรือ เป็นที่ยอมรับมากกว่านี้มาทำหน้าที่แทนผม” 

น้าเน็ก ได้กล่าวว่า “แปลว่าทิดเองจะยุติบทบาทการทำหน้าที่ ?”  ไพรวัลย์ ตอบว่า “ใช่น้า ผมคิดมาแล้วไม่ใช่ผมไม่คิด เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะใดๆ อะไรเกิดก็ตามผมเลือกความเป็นตัวผม ผมไม่เลือกอันอื่น ไม่เลือกอันอื่นเด็ดขาดแน่นอนผมจะจัดการและรับผิดชอบ”   

จากนั้น ‘ไพรวัลย์’ ได้ลาผู้จัดรายการทั้ง 3 คน และบอกว่าไม่อยากให้บรรยากาศมาคุ ซึ่งทาง ‘น้าเน็ก’ ในฐานะเจ้าของรายการ บอกว่า “ถ้ารู้มาก่อนหน้านี้สักหน่อยว่าจะใช้โอกาสนี้ในการลา (farewall) แต่คุณลาออกกลางรายการแบบนี้ไม่รู้ว่าผมจะฉลองอะไร”

(แฟ้มภาพ)

เวลา 23.51 น. วันที่ 28 ม.ค. 2565  เพจเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้โพสต์ข้อความว่า “ผมอยากให้น้าเน็กพูดและพูดด้วยคำสัตย์คำจริงว่า ก่อนเข้ารายการ ผมได้แจ้งน้าแน็กอย่างชัดเจนและครบถ้วนอย่างตรงไปตรงมาก่อนหรือไม่ว่า ระหว่างการที่ผมขึ้นรถกลับห้องและหายไปเงียบๆ จากรายการเลย กับการที่ผมเข้ารายการแล้วผมได้อำลาทุกคนพร้อมทั้งชี้แจงเรื่องของตัวเองอย่างเปิดใจ ผมเลือกแบบไหน (แบบไหนที่ว่าก็คือแบบหลัง)”

“ผมรู้ดีว่า ต่อให้ผมอยู่ต่อหรือผมลุกออก ผมก็โดนด่าทั้งสองทางอยู่ดี แต่ผมเลือกอย่างหลัง คือเลือกลุกออก หลังจากที่ได้พูดเรื่องของตัวเองแล้ว เพราะอย่างน้อย ผมก็เห็นว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่ดีที่สุดสำหรับผม แต่ดีที่สุดสำหรับรายการ สำหรับคนดู ซึ่งยังอาจพอจะได้สาระอะไรบ้างจากเรื่องที่พี่ๆ ทั้ง 3 คนจะคุยหลังจากที่ผมลุกออกไปแล้ว ผมเป็นคนเปิดเผยและตรงไปตรงมา ที่สำคัญอย่างที่พูดคือผมเคารพคนอื่น เท่าๆ กับที่ผมเคารพความรู้สึกตัวเอง”

และอีกข้อความว่า “ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมทุกคนต้องเหวอ ในเมื่อก่อนเข้ารายการ เราก็นั่งคุยกันอยู่ และทุกคนก็ทราบว่า ผมจะชี้แจงเรื่องของตนเอง และลุกออกจากรายการ”

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า