สรุป ‘คนละครึ่ง เฟส 4’ เริ่ม 1 ก.พ.นี้ อธิบายขั้นตอนสำหรับ ผู้เคยได้สิทธิ และ จะลงทะเบียนใหม่

สรุป ‘คนละครึ่ง เฟส 4’ ลดวงเงินเหลือคนละ 1,200 บาท ขณะที่ รมว.คลัง ชี้แจง 2 เหตุผลลดวงเงิน เพราะมองกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ – คนละครึ่งเฟส 3 ใช้จ่ายไม่ถึง

วันที่ 24 ม.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบวงเงิน  34,800 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 30 เม.ย. 2565 จำนวน 29 ล้านสิทธิ

(แฟ้มภาพ-อาคม เติมพิทยาไพสิฐ)

โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงในรายละเอียด สรุปได้ดังนี้

– ‘คนละครึ่ง เฟส 4’ รัฐบาลจะให้สิทธิ 150 บาทต่อคนต่อวัน วงเงินไม่เกิน 1,200 บาท

– ใน 29 ล้านสิทธิ แบ่งเป็นผู้ที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งจำนวนกว่า 27 ล้านสิทธิ กลุ่มนี้สามารถรับสิทธิได้โดยการ “กดยืนยันในแอปฯ เป๋าตัง”  ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. กดใช้เงินก่อน 28 ก.พ. เวลา 22.59 น. (หรือก่อนเวลา 5 ทุ่ม ของวันที่ 28 ก.พ. 2565) ถ้าไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ

– ส่วนอีกกว่า 1 ล้านสิทธิ จะเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง สำหรับผู้ไม่เคยอยู่ในโครงการคนละครึ่ง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. เป็นต้นไป และใช้สิทธิตั้งแต่ 17 ก.พ. – 30 เม.ย. 2565

นายอาคม กล่าวด้วยว่า วงเงินที่ใช้ในคนละครึ่ง เฟส 4 เป็นวงเงินคงเหลือจากคนละครึ่ง เฟส 3 วงเงินคงเหลือ 11,000 ล้านบาท

ส่วนเหตุผลที่ลดวงเงินลงเหลือคนละ 1,200 บาท รมว.คลัง กล่าวว่า “เราก็ดูในเรื่องของดัชนีทางเศรษฐกิจว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวโดยลำดับ โดยที่มีกิจกรรมทางธุรกิจ กิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้นโดยลำดับ ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการบริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอย เห็นว่าเศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้น รัฐบาลก็คงจะให้การช่วยเหลือตรงนี้ให้แบ่งให้ทางภาคประชาชนได้ใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้น อีกส่วนที่ดีขึ้น เพราะมีพนักงานส่วนหนึ่งกลับเข้าสู่ระบบการจ้างงาน จากที่เคยตกงาน โรงแรมก็เริ่มเปิดได้ ก็มีพนักงานกลับเข้าไปทำงานมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนที่สองถ้าหากดูในเรื่องค่าเฉลี่ยการใช้จ่าย ในรอบที่ 3 ที่เราให้ 150 บาท บวกอีก 150 บาท คนที่ใช้จ่ายจริงใช้ไม่ถึง 150 บาท บวก 150 บาท จึงคิดว่าคงไว้ที่ 150 บาท และลดวงเงินลงมา”

เติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-กลุ่มเปราะบาง อีกคนละ 600 บาท 3 เดือน

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 8,070.724 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อ ให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ระยะที่ 2 กรอบวงเงิน 1,351.981 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19

โดยจะเป็นการให้เงินช่วยเหลือ 600 บาทต่อคน ตลอดโครงการ 3 เดือน 1 ก.พ. – 30 เม.ย. 2565 (เติมเงินเดือนละ 200 บาท) ให้ไปซื้อสินค้าต่างๆ ภายในเดือนนั้นๆ ครอบคลุมผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.45 ล้านคน และ ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ (กลุ่มเปราะบาง) 2.25 ล้านคน