ป.ป.ช. ชี้มูล “สุเทพ” ทุจริตก่อสร้างโรงพัก-แฟลต ตร. เสียหาย 5,722 ล้านบาท

วันที่ 6 ส.ค. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี 2 กรณี คือ

1. ทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง เป็นเหตุ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย เป็นเงิน จำนวน 1,728 ล้านบาท

ป.ป.ช.ชี้ว่า เดิม สตช.ได้กระจายการจัดซื้อจัดจ้างไปตามตำรวจภูธรภาค หรือตำรวจภูธรจังหวัด เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จและไม่เกิดปัญหา โดนเสนอผ่าน นายสุเทพ ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล สตช.ให้ เสนอ ครม.อนุมัติ ซึ่ง ครม.อนุมัติตามที่เสนอ เมื่อ 17 ก.พ. 2552

แต่ต่อมา พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้ทำหนังสือถึงนายสุเทพ ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงให้จัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว และนายสุเทพ ได้อนุมัติโดยไม่ได้เสนอ ครม. ” จึงเป็นการอนุมัติโดยไม่มีอำนาจ และโดยรู้อยู่แล้วว่าแนวทางที่ตนอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงดังกล่าวการก่อสร้างจะไม่แล้วเสร็จ”

บริษัท พีซีซี ดีเวลล๊อปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้ชนะการประกวดราคา ไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จตามสัญญา สตช.ขยายเวลาให้หลายครั้ง จนต้องใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2556

2. ทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต) จำนวน 163 หลัง เป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหายเป็นเงิน จำนวน 3,994 ล้านบาท นอกจากนั้น ปรากฏมี เจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกรับเงินจากผู้รับจ้าง เป็นเงินจำนวน 91,678,000 บาท

คดีนี้ ป.ป.ช. ระบุว่า ขั้นตอนเหมือนกับกรณีโรงพักทดแทน คือ ให้แยกดำเนินการรายภาค แต่พล.ต.อ.ปทีป ได้ทำหนังสือถึงนายสุเทพ ให้จัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว ซึ่งนายสุเทพได้อนุมัติเอง โดยไม่ผ่าน ครม.เช่นกัน

บริษัท พีซีซี ดีเวลล๊อปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา และก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จนถูกบอกเลิกสัญญาในวันเดียวกับการก่อสร้างโรงพักทดแทน

ซึ่งในคดีแฟลตตำรวจ ยังปรากฏว่า พ.ต.ท. คมกริบ นุตาลัยซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจการจ้าง ตำรวจภูธรภาค 6 เรียกรับเงินจากผู้รับจ้างเพื่อแลกกับการช่วยเหลือในการตรวจการจ้างเป็นเงิน จำนวน 60,000 บาท และ ด.ต. สายัณ อบเชย ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ตำรวจภูธรภาค 5 ได้เรียกรับเงินจากผู้รับจ้างเพื่อแลกกับการช่วยเหลือในการควบคุมการก่อสร้างเป็นเงิน จำนวน 91,618,000 บาท อันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น

ทั้ง 2 กรณี ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ จากกรรมการที่พิจารณา 8 เสียง ว่า การกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 79 (1) (5) และ (6) ในกรณีโรงพักทดแทน

บริษัท พีซีซี ดีเวลล๊อปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด โดยนายวิษณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท และนายวิษณุ วิเศษสิงห์ ในฐานะส่วนตัว มีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว ทั้ง 2 กรณี

นอกจากนี้ยังชี้มูลการกระทำผิดของตำรวจรายอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหลายนาย

ทั้งนี้ นายวรวิทย์ ระบุว่า การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

อ่ายรายละเอียดคดี ฉบับเต็ม