SHARE

คัดลอกแล้ว

ตำรวจแจ้งเบื้องต้น 6 ข้อหา หนุ่มเมายาควงขวาน-ปืนปลอม บุกป่วนสนามบินสุวรรณภูมิ สอบสวนพบเกิดจากอาการประสาทหลอน อ้างมีคนบอกให้ไปปล้นเครื่องบิน

วันที่ 4 พ.ค. 2565 จากกรณีที่มีคลิปเหตุการณ์ระทึกภายในบริเวณหลุมจอดเครื่องบินที่ 101 ภายในพื้นที่หวงห้าม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ในคลิปมีชายคนหนึ่งถือขวานวิ่งอยู่บริเวณหลุมจอดดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พยายามวิ่งไล่จับตัว แต่ชายคนดังกล่าวได้ใช้ขวานไล่ฟันและวิ่งหนีขึ้นบันไดท่าเทียบเครื่องบินจุดที่สามารถเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสาร จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่การท่าจึงตัดสินใจเข้าชาร์จตัวเอาไว้ได้สำเร็จ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2565 โดยหลังเกิดเหตุพบว่าชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลถูกกระจกของทางเข้าอาคารผู้โดยสารแตกใส่และจากการต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่ ขณะที่มีรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่บางนายได้รับบาดเจ็บถลอกตามร่างกายด้วยเช่นกัน

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายวัชระ คำบุตร อายุ 34 ปี พร้อมกับยึดของกลางเป็นปืนปลอมสั้น 1 กระบอก ขวานด้ามเหล็กยาวกว่า 50 เซนติเมตร กรรไกรปลายแหลมด้ามพลาสติก 1 อัน ยาบ้าสีส้ม 1 เม็ดบรรจุในกล่องพลาสติกทองรูปพรรณ  โดยในเบื้องต้นชายคนดังกล่าวยังอยู่ในอาการเมาเสาเสพติดและยังไม่สามารถเอาตัวมาสอบปากคำได้ จึงต้องนำตัวเข้าห้องขังเพื่อสงบสติอารมณ์ 

ร.ต.อ.ไพศาล วีระกิจพานิช รองสารวัตร (สอบสวน) เปิดเผยเบื้องต้นว่าจากการสอบปากคำเบื้องต้นของผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งยังคงอยู่ในอาการเมาสารเสพติด ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีอาชีพเป็นพนักงานคลังสินค้าแห่งหนึ่งย่าน อ.บางเสาธง หลังเลิกงานออกกะเช้าจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากคลังสินค้า กลับไปที่ห้องพักในเคหะเมืองใหม่บางพลี จนกระทั่งเกิดอาการประสาทหลอน อ้างว่ามีคนบอกให้ไปปล้นเครื่องบิน จึงคว้าอาวุธขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ามาที่สนามบิน พอมาถึงประตูทางเข้าดังกล่าวเป็นจังหวะที่รถของเจ้าหน้าที่กำลังเข้าพื้นที่ จึงเร่งเครื่องแซงซ้ายเข้าไป จนกระทั่งถูกตามจับกุมตัวได้สำเร็จ

เบื้องต้นแจ้ง 6 ข้อหา คือ 1.ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 19 ผู้ใดใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ถ้าการกระทํานั้น เป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ผู้กระทําต้องระวางโทษประหารชีวิต จําคุกตลอดชีวิต หรือจําคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000-800,000 บาท, 2.พกพาอาวุธ (ขวาน) ไปในทาง เมือง ชุมชนและพื้นที่หวงห้ามเขตการบิน โดยไม่ได้รับอนุญาต, 3.ทำให้ผู้อื่นเกิดความตกใจกลัว, 4.ขับขี่ยานพาหนะขณะเสพสารเสพติดในร่างกาย, 5.ทำให้เสียทรัพย์, 6.ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน 

ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่จุดตรวจรักษาความปลอดภัยตรงประตูทางเข้า contropost 3 ด้านขาเข้า ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้ามสูงสุด โดยคนร้ายอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ขับรถกระบะกำลังเข้าพื้นที่หวงห้าม ชายคนดังกล่าวจึงชักปืนออกมาถือที่มือซ้าย แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังรถกระบะของเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าสู่พื้นที่ด้านใน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังผู้เกี่ยวข้องไล่ติดตามควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ได้ในเวลาเพียง 9 นาที จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองยืนยันว่าระบบรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่ได้หละหลวมแต่อย่างใด และมีแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์ตลอดเวลา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ต้องหาอาศัยจังหวะที่รถของเจ้าหน้าที่กำลังผ่านประตูทางเข้า ผู้ต้องหาจึงเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์แซงซ้ายรถเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบิน ซึ่งตนเองจะได้เรียกฝ่ายรักษาความปลอดภัยมาทบทวนและเพิ่มแนวทางป้องกันเหตุในลักษณะเช่นนี้

นายกิตติพงศ์  กล่าวว่าตนเองมุ่งเน้นเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านชีวิตของเจ้าหน้าที่และผู้โดยสาร เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในเรื่องของชีวิตไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ของการท่าใช้หลักประเมินสถานการณ์ และคำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ก่อนจะตัดสินใจเข้าชาร์จจับกุมตัวชายดังกล่าวได้สำเร็จ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า