SHARE

คัดลอกแล้ว

เต้ มงคลกิตติ์ คือบุคคลที่สร้างกระแสในสังคมออกเป็น 2 ทางได้อย่างไม่น่าเชื่อ บางคนด่าว่าเขาไร้สาระ แต่ในอีกมุมหนึ่ง พอเปิดสภา เขาเดินหน้าลุยทำงานแหลก จนมีผลงานชัดเจนกว่าสส.อีกหลายคน

Workpoint News จะไปไล่เรียง Timeline ของ “เต้” ให้ผู้อ่านได้พิจารณาดูใน 21 ข้อ ไปดูกันว่า สรุปแล้ว เขาคือตัวโจ๊กเอาฮา หรือ ผู้แทนสภาตัวจริงกันแน่

1) มงคลกิตติ์ เป็นคนพิษณุโลก เขาจบ มัธยมที่พิษณุโลกพิทยาคม ก่อนจบ ป.ตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ และจบ ป.โท ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2) มงคลกิตติ์ เริ่มต้นในโลกการเมืองด้วยการ ลงสมัคร สส. ในนามพรรคต้นตระกูลไทย ในปี 2546 แต่สอบตก

จากนั้นในปี 2554 ลงสมัครอีกครั้ง โดยต่อสู้ในเขตบางซื่อ ภายใต้พรรคประชาราช แต่ก็สอบตกอีก ได้เพียง 1,357 คะแนนเท่านั้น จากนั้นได้โอกาสทำงานเป็นเลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น

3) ผลงานเด่นของมงคลกิตติ์ ในปี พ.ศ.2554 เขาพา นักเรียน ม.3 โรงเรียนบดินทรเดชา ที่ไม่ได้สิทธิ์ให้เรียนต่อ ม.4 จำนวน 30 คน บุกมาประท้วง พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มั่นใจในความรู้ความสามารถของครูโรงเรียนบดินทรเดชา จนเกิดการปะทะคารมกับครูในโรงเรียน

ผลลัพธ์ ทำให้เด็กนักเรียนที่โดนตัดสิทธิ ได้สิทธิเข้าเรียน ม.4 โดยนักเรียนคนหนึ่ง ชื่อเขม อังธนเศรษฐ์ กล่าวยอมรับว่า การประท้วงของมงคลกิตติ์ ทำให้เขาได้เข้าเรียนต่อตามสิทธิที่ควรได้รับจริงๆ

4) เดือนมีนาคม 2561 มงคลกิตติ์ ร่วมก่อตั้งพรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อเตรียมสมัครเลือกตั้งในปี 2562 และได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพรรค โดยเป็นสส.เบอร์แบบปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 1 ของพรรคด้วย

5) 22 มิถุนายน 2561 มงคลกิตติ์ ชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรเพิ่มบทลงโทษ นักการเมือง หรือข้าราชการที่ฉ้อโกง ด้วยการเฆี่ยนด้วยไม้เรียว และฟาดด้วยไม้พลอง เพิ่มเติมจากโทษเดิมคือการตัดเงินเดือน ลดเงินเดือน เพราะวิธีการเดิมๆคือการลงโทษที่เบา ไม่ทำให้คนโกงรู้สึกหลาบจำ

6) 28 ธันวาคม 2561 พรรคไทยศรีวิไลย์ประกาศ “นโยบาย 10 ด้าน” เพื่อใช้สู้ศึกเลือกตั้ง โดยข้อ 1 ที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดคือ คำสั่งใดของคสช.ที่ยกเลิกการชี้แจงทรัพย์สินของข้าราชการ ถ้าเราได้อำนาจ ทุกคนต้องยื่นชี้แจงบัญชีทรัพย์สินให้หมด

ซึ่งนโยบาย ที่สั่งให้ทุกคนเปิดเผยทรัพย์สินทั้งหมด ดูจะเป็นการเปิดหน้าสู้กับคสช.แบบตรงๆทีเดียว

7) 23 กุมภาพันธ์ 2562 มีการปล่อยคลิป มงคลกิตติ์ ประกาศบนรถหาเสียงว่าจะ “ตบปาก” คนที่เสนอนโยบายลดกำลังทหาร

“ไอ้คนที่บอกว่า จะลดกำลังทหารเนี่ย ผมจะบอกว่า พวกมึงไปถอดเสื้อพลเรือนแล้วเป็นทหารแทน นักการเมืองแต่ละคนที่ปากดีเนี่ย ถ้าเห็นหน้าแล้วจะตบปากให้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เสรีพิศุทธิ์ หรือธนาธร ถ้าแน่จริงไปเป็นทหารที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าปากดี”

8) 13 มีนาคม 2562 ก่อนการเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ มงคลกิตติ์ให้สัมภาษณ์จุดยืนทางการเมืองอย่างชัดเจนว่า

“ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ สนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน สาเหตุเพราะพล.อ.ประยุทธ์มีความสามารถแค่เรื่องความมั่นคง ไม่มีความสามารถเรื่องเศรษฐกิจ ประเทศไทยไม่ได้อยู่ได้ด้วยความมั่นคงอย่างเดียว เพราะฉะนั้น 5 ปีที่ผ่านมา เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ สร้างหนี้สาธารณะเพิ่มเติมอีก 1.22 ล้านล้านบาท”

9) 24 มีนาคม 2562 วันเลือกตั้ง พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้คะแนนเสียงจากทั้งประเทศรวมกัน 60354 เสียง ในตอนแรกไม่ได้ สส.เลย แม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยการคิดสูตรคำนวณแบบใหม่ของ กกต. ทำให้ พรรคเล็กทั้งหลาย รวมถึงไทยศรีวิไลย์ ได้โควต้าสส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 ที่นั่ง

นั่นแปลว่า มงคลกิตติ์ ซึ่งเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 จึงได้กลายเป็น สส.ไปด้วยโดยปริยาย และเป็นครั้งแรกที่เขา “สอบผ่าน” ในการเลือกตั้งอีกด้วย

10) หลังจากได้อานิสงส์ จากการตีความเรื่องสูตรคำนวณ ทำให้มงคลกิตติ์เปลี่ยนท่าที จากเดิมที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เขากลับมาหนุนหลัง พล.อ.ประยุทธ์แทน

“ผมกับพรรคเล็กทั้ง 11 พรรค ต้องการเปิดสวิตช์ประเทศไทย เพื่อให้เดินหน้าต่อไปให้ได้” สุดท้ายมงคลกิตติ์ ประกาศจุดยืน ว่าจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์แทน

11) 16 พฤษภาคม 2562 มีการเปิดเผยคลิปไลฟ์สดของ มงคลกิตติ์ออกมา จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วเมือง

“สมัยพี่หนุ่ม ๆ พี่ไม่ใช้ลูกน้อง พี่ลงมือเอง เพราะลูกน้องโหดไม่เท่าพี่ สมัยเทคนิคไทยเยอรมัน มีเรื่องชกต่อยทุกวันสมัยเรียน พี่ชนะห้องนี้ไปชนะห้องอื่นต่อ พี่จะนัดต่อยกันทุกวัน สมัยร.ด. ปีหนึ่งมีเรื่องที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พี่มี 30 ฝ่ายโน้นมี 60 พี่เป็นคนเปิด”

“ปกติใครมีเรื่องที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือก็จะมาหาพี่ก่อน เพราะพี่จะรู้หมดว่าใครอยู่ซุ้มไหน ตอนนั้นพี่เป็นประธานชมรมเพาะกาย มีพวกห่ามๆเป็นสมาชิกชมรม 5 พันคน”

“พี่ไม่ใช่คนติ๋ม ถามเพื่อนพี่ที่จบวิศวะรุ่นเดียวกันได้ พี่โหดขนาดไหนนะครับ นักการเมืองไม่กล้ายุ่งกับพี่ละกัน เมื่อก่อนพี่ต่อยกับนักมวย นักมวยแพ้พี่นะครับ ตอนอายุ 16 พี่ไม่ฆ่ามันก็ดีแล้ว”

เมื่อมีคลิปนี้หลุดออกมา ทำให้ผู้คนร่ำลือถึงมงคลกิตติ์ในทางตลกว่า อะไรเกียรติประวัติพี่จะโหดขนาดนั้น

12) วันต่อมา คลิปความมหัศจรรย์ของมงคลกิตติ์ยังไม่หมด เจ้าตัวไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับชีวิตรักในวัยเรียน โดยกล่าวว่า

“ผมเสียบริสุทธิ์ตั้งแต่อายุ 17 ยังจำผู้หญิงคนแรกได้ อายุมากกว่าผม 3 ปี ผมถูกข่มขืน ร้องไห้ เสียใจ ไม่หรอกๆ เราไม่ได้ถูกข่มขืนหรอก แต่เรายังเด็กไง”

“คือเขาก็สวยนะ พี่น่ะชอบผู้หญิงสวยอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้เพื่อนๆพี่อยากเคลมกันทุกคน ในสมัยปวช.อ่ะ แต่เสร็จพี่คนเดียว”

13) ถึงตรงนี้ มงคลกิตติ์ ถูกมองว่าเป็นคนพูดจาเรื่อยเปื่อย ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แล้วคนแบบนี้ จะกลายเป็น สส. ออกกฎหมายให้ประชาชนอย่างนั้นหรือ เขาโดนกระแสต่อต้านเป็นจำนวนมาก จากในโลกออนไลน์

14) 25 พฤษภาคม 2562 การประชุมสภาวันแรกเริ่มขึ้น ในระหว่างที่ สส. ทำการปราศรัย มงคลกิตติ์ใช้สิทธิประท้วง เรื่องการพูดจาฟุ่มเฟือย ซ้ำซาก และให้ชัย ชิดชอบ ประธานสภายุติการประชุมชั่วคราว ให้สส.ได้พักผ่อน แต่สุดท้ายโดนตำหนิกลับมาว่า “ถ้าไม่เปิดโอกาสให้ได้คุยกัน จะมีสภาไว้ทำไม ผมแก่ยังนั่งได้ หนุ่มๆจะถอย ผมว่าน่าเกลียดชาวบ้านเขามอง”

นอกจากนั้น ยังไปถ่ายเซลฟี่กับสส.จำนวนมากในสภา จนโดนคนแซวว่า นี่ไปประชุม หรือไปถ่ายรูปกันแน่

15) การเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 5 มิถุนายน มงคลกิตติ์ อภิปรายว่า ทั้งบิ๊กตู่ และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คุณสมบัติครบทั้งคู่ ก่อนที่สุดท้าย จะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

16) ในขณะที่ชาวเน็ตมองมงคลกิตติ์เป็นตัวโจ๊กของสภา แต่พอเขาเริ่มเป็น สส. เจ้าตัวเริ่มลุยงานทันที ทั้งการอภิปรายในสภา และการลงพื้นที่

17) 22 มิถุนายน มงคลกิตติ์ ตั้งกระทู้ถามในสภา เรื่องการบินไทย เตรียมกู้เงินหลักแสนล้านเพื่อซื้อเครื่องบินใหม่ 38 ลำ โดยถามว่า มีความจำเป็นเพียงใดในการต้องซื้อลำใหม่ และลำเก่าทรุดโทรมถึงขนาดใช้การไม่ได้จริงหรือไม่ พร้อมจี้การบินไทย ให้ออกมาเปิดผลประกอบการของบริษัทให้สังคมรับรู้

18) 25 มิถุนายน ลงลุยพื้นที่จังหวัดนครพนม แฉโครงการก่อสร้างบ่อกำจัดขยะ ที่ใช้งบก่อสร้างถึง 72 ล้านบาท แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง ขยะไม่สามารถกำจัดได้ จนส่งกลิ่นเหม็น กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ในนครพนม จนสังคมมองเห็นถึงปัญหา

19) 9 กรกฎาคม มงคลกิตติ์ ลุยพื้นที่ ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อไปศึกษาปัญหา คนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ที่เข้ามาแย่งอาชีพคนไทย โดยเฉพาะอาชีพขี่สามล้อแดง ที่โดนคนต่างชาติแย่งงานไปหมด หลังจากมงคลกิตติ์ลงพื้นที่ ทำให้ขนส่งจังหวัดตาก แจ้งทันทีว่า ผู้เดือดร้อน สามารถแจ้งเรื่องมาที่ขนส่งได้ และเจ้าหน้าที่ จะพยายามเข้าไปจับกุมทันที

20) 10 กรกฎาคม มงคลกิตติ์ ขึ้นอภิปราย ในประเด็นโรงเรียนรัฐจำนวนมาก มีการโกงงบประมาณเรื่องค่าอาหารเด็ก ทำให้เด็กได้รับอาหารไม่ครบ 5 หมู่ อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งๆที่ กระทรวงศึกษาธิการมีงบเรื่องอาหารเด็กนักเรียนมากกว่า 12,500 ล้านบาท แต่ยังมีผู้ปกครอง จำนวนมาก ร้องเรียนว่า เด็กๆได้รับแค่ วิญญาณอาหารเท่านั้น

21) ด้วยพฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้ ของ เต้ มงคลกิตติ์ จึงทำให้กระแสในสังคม จับทางไม่ถูกว่า สรุปเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ทั้งๆที่ยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เดินหน้าลุยให้เห็นถึงปัญหาของรัฐบาลมากมาย เหมือนกับทำงานฝ่ายค้านไม่มีผิด

ขณะที่ในช่วงแรก มงคลกิตติ์ เปิดตัวดูเหมือนเป็นตัวโจ๊ก พูดจาเว่อร์วัง เอาฮาอย่างเดียว แต่ในปัจจุบัน พอได้รับตำแหน่ง กลับหลีกเลี่ยงดราม่าในสภา และเดินหน้าทำงาน จนเป็นหนึ่งใน สส.ที่มีผลงานจับต้องได้มากที่สุดเลยทีเดียว

วันนึงสร้างเรื่องให้คนด่า วันต่อมาลุยทำงานให้คนสรรเสริญ นี่คือมนุษย์ที่เดาทางยากที่สุดในประเทศไทยชั่วโมงนี้ “เต้ มงคลกิตติ์”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า