จากกรณีผลการเลือกตั้งใหม่ เขต 8 จ.เชียงใหม่ ที่ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ได้รับเลือกเป็น ส.ส.เขต และเมื่อนำคะแนนทั้งหมดในเขตไปคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทำให้ พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่ม ส่วน นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทรักธรรม จะต้องพ้นจาก ส.ส. หลังเข้าทำหน้าที่ได้แค่ 3 วันในการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
วันที่ 28 พ.ค. นายพีระวิทย์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นที่ทำการสาขาภาคใต้ของพรรคไทรักธรรมว่า ไม่ได้วิตกกับการที่จะถูกริบเก้าอี้แต่อย่างใดเพราะดูจาก พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คะแนนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1 ปี หากมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งหากหนังสือจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งถึงประธานสภาและมีการแจ้งมาถึงตนจึงจะเป็นการพ้นสภาพ ส.ส.
นายพีระวิทย์ กล่าวต่อว่า หากถูกปลดจาก ส.ส.ก็จะไม่มีการฟ้องร้องใดๆทั้งสิ้นเพราะถือว่ากกต.ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วเรื่องนี้ไม่มีใครผิดและกรณีของตนก็เป็นเคสแรกที่เกิดขึ้นจากสูตรการเลือกตั้งใหม่ที่จะใช้เป็นกรณีศึกษา อย่างไรก็ตามขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเรื่อง ส.ส.เขตอยู่ที่ กกต.อีก 25 เขต จึงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก ตนเองอาจจะมีสิทธิ์กลับมาอีกก็ได้ ประชาธิปัตย์อาจจะหลุดไปอีกก็ได้
เมื่อถามถึงการทำงานทางการเมืองต่อไป หัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวว่า จะเดินหน้าทำสาขาพรรคต่อไป และถ้าหากมีการเลือกตั้งใหม่ในเขตใดก็พร้อมจะลุยเดินหน้าหาเสียงต่อ ทั้งยังหวังว่าการตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐจะได้รับการดูแลต่อ
“เอาตรงๆ เมื่อเราอยู่กับผูู้หลักผู้ใหญ่ในพลังประชารัฐแล้ว ก็อาจจะให้ช่วยดูแลเรา นโยบายที่สอดคล้องกันตรงกัน ก็เตรียมตัวสมัยต่อไป”
นายพีระวิทย์ ยังกล่าวชื่นชม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยว่า ยอมโดนด่าบ้างเพื่อเอาประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก โดยเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไปผลักดันนโยบาย ท่านอนุทินเป็นนักการเมืองที่สุดยอดที่สุดในเวลานี้ ท่านยอมถอยมาทั้งที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยอมให้แคนดิเดตท่านอื่นและยอมโดนด่าเพื่อทำตามที่รับปากประชาชนไว้
ทั้งนี้ในการแถลงของนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. วันนี้ (28 พ.ค.) มีการระบุว่า นายพีระวิทย์ พ้นจาก ส.ส.เพราะแพ้คะแนนดิบเพียง 33 คะแนน ถ้าหากมีการเลือกตั้งใหม่และมีการคำนวณใหม่ผลก็อาจจะเปลี่ยนแปลงอีก