รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันเผยความสัมพันธ์กับจีนเลวร้ายสุดในรอบ 40 ปี

รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันเผยความสัมพันธ์กับจีนตึงเครียดสุดในรอบ 40 ปี หลังจีนเดินหน้าส่งเครื่องบินรบบินเฉียดน่านฟ้าต่อเนื่อง

วันที่ 6 ต.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชิวกว๋อเจิ้ง รัฐมนตรีกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่สุดในรอบ 40 ปี หลังจากที่จีนเดินหน้าส่งเครื่องบินรบบินเข้าน่านฟ้าในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง 

รายงานระบุว่า การส่งเครื่องบินรบบินเข้าใกล้น่านฟ้าของไต้หวันในครั้งนี้เป็นการแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของจีน โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองวันชาติจีน ล่าสุดมีเครื่องบินรบของจีนบินเข้าใกล้น่านฟ้าของไต้หวันเป็นจำนวนกว่า 150 ลำแล้ว

ชิวกว๋อเจิ้งได้ตอบข้อซักถามของสมาชิกรัฐสภาว่า สถานการณ์ตอนนี้อยู่ในขั้นรุนแรงสุดในรอบกว่า 40 ปี นับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งในกองทัก พร้อมกับเสริมว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดการยิงผิดบริเวณช่องแคบไต้หวันที่กำลังมีความอ่อนไหว 

ก่อนหน้านี้ ไต้หวันได้เสนอเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศเพิ่มอีกมูลค่า 2.4 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (8.6 พันล้านดอลลาร์) ในช่วง 5 ปีข้างหน้า รวมถึงขีปนาวุธใหม่ พร้อมเตือนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับด้านอาวุธ เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรงจากจีน

รมว.กลาโหมไต้หวันกล่าวกับคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ ว่า “ในฐานะทหาร ผมคิดว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนเกิดขึ้นตรงหน้าแล้ว” โดยอธิบายต่อไปว่า ตอนนี้กองทัพจีนได้พัฒนาตนเองจนมีศักยภาพเพียงพอที่จะรุกรานไต้หวันได้แล้ว และคาดว่าจะเข้ามาบุกรุกได้อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2568

“ในปี 2568 จีนจะสามารถลดต้นทุนและจำนวนคนลงได้ต่ำสุด แม้ตอนนี้จีนมีศักยภาพในการทำเช่นนั้นแล้ว แต่สงครามก็อาจยังไม่เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องอื่นๆ” รมว.กลาโหมระบุ

สำหรับงบประมาณดังกล่าวนั้นเป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากงบการใช้จ่ายทางทหารที่วางแผนไว้จำนวน 4.717 แสนล้านดอลลาร์สำหรับปี 2565