รองปธน.ไต้หวันขอบคุณสหรัฐฯ ที่ช่วยบริจาควัคซีนโควิด-19 เมื่อครั้งโดนจีนขวางซื้อวัคซีน

รองประธานาธิบดีไต้หวันแวะสหรัฐฯ ขณะเดินทางกลับจากฮอนดูรัส พร้อมขอบคุณเรื่องบริจาควัคซีนในช่วงที่โดนรัฐบาลจีนขัดขวาง

วันที่ 30 ม.ค. 2565 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า รองประธานาธิบดี วิลเลียม ไหล ของไต้หวัน ใช้ช่วงวันสุดท้ายของภารกิจเยือนสหรัฐฯ และฮอนดูรัส ในการกล่าวขอบคุณวุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ที่มีส่วนช่วยในขั้นตอนการบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพ.ค. 2564 ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันออกมากล่าวหาว่าจีนทำการขัดขวางไม่ให้ไต้หวันเจรจาขอซื้อวัคซีนจาก ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) ของเยอรมนีได้ หลังจากที่ทางรัฐบาลปักกิ่งเสนอวัคซีนที่ผลิตในประเทศจีนให้ แต่ถูกไต้หวันปฏิเสธเพราะกังวลในเรื่องความปลอดภัย

แต่ในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ต่อมา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก 2 คนได้เดินทางไปเยือนไต้หวัน และรับปากว่าสหรัฐฯ จะช่วยบริจาควัคซีนจำนวน 750,000 โดสให้

ในระหว่างการเปลี่ยนเครื่องที่เมืองซานฟรานซิสโก ขณะเดินทางกลับจากการเยือนฮอนดูรัส วิลเลียม ไหล มีการพูดคุยกับสมาชิกพรรคเดโมแครตของรัฐอิลลินอยส์ โดยได้กล่าวขอบคุณบทบาทเมื่อปีก่อนที่ช่วยเหลือไต้หวันช่วงที่ไม่สามารถจัดหาวัคซีนได้เนื่องจากปัจจัยเกี่ยวกับประเทศจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง

โดยเฉพาะวุฒิสมาชิก แทมมี ดักเวิร์ธ ที่ไม่เพียงแต่เดินเรื่องให้รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาควัคซีนแก่ไต้หวัน ยังเดินทางไปเยือนไต้หวันด้วยตนเองเพื่อประกาศเรื่องดังกล่าวอีกด้วย

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาตอบโต้ว่านายไหลแต่งเรื่องขึ้นมาทั้งหมด เป็นการใส่ร้ายป้ายสีโฉมหน้าที่แท้จริงของจีนแผ่นดินใหญ่

ครั้งนั้นไต้หวันสามารถเจรจาซื้อวัคซีนที่ไบโอเอ็นเทคพัฒนาร่วมกับไฟเซอร์ได้ในที่สุด หลังจากล่วงเลยไปถึงเดือนก.ย. ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่รัฐบาลไต้หวันอนุญาตให้บริษัทใหญ่อย่าง ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) และผู้ก่อตั้งอย่าง เทอร์รี กัว ร่วมกับบริษัทผลิตชิปชื่อดัง Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC) เป็นตัวแทนไปต่อรองเพื่อขอซื้อวัคซีน

นายไหลนับเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่อาจลงสมัครับเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้เดินทางไปยังฮอนดูรัสเพื่อเข้าร่วมในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่ และใช้เวลาระหว่างนั้นในการเจรจาทางการทูตกับสหรัฐฯ