“คราวน์ โทเคน” มากกว่ายูทิลิตี้ โทเคน เพราะเป็นอีโคซิสเท็มของคนรักความบันเทิง

เมื่อพูดถึงสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงนึกถึงสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ อีธีเรียม ไบแนนซ์คอยน์ ดอร์จคอยน์ ฯลฯ หรือ NFT (Non – Fungible Tokens) คริปโทเคอร์เรนซีที่แสดงความเป็นเจ้าของหนึ่งเดียวในผลงานศิลปะ ซึ่งกำลังฮิตในกลุ่มศิลปินแขนงต่าง ๆ อยู่ตอนนี้เสียมากกว่า

ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วยังมีสินทรัพย์อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันแต่อาจจะไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก นั่นคือ “ยูทิลิตี้ โทเคน” (Utility token) โทเคนดิจิทัลที่มีไว้เชื่อมโยงผู้ถือครองเข้ากับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพราะแต่ละโทเคนมักจะกำหนดเงื่อนไขการใช้งานไม่เหมือนกัน และถูกสร้างมาอย่างจำกัด จึงมั่นใจได้ว่าสิ่งที่จะได้รับหลังจากนี้จะมีความพิเศษไม่ซ้ำกับใครอย่างแน่นอน

ยูทิลิตี้ โทเคนมาแรงและไม่เหมือนใคร

ในปัจจุบันยูทิลิตี้ โทเคนที่มาแรงที่สุดในไทยคงหนีไม่พ้น “คราวน์ โทเคน” หรือ CWT จากทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (T&B Media Global Thailand) ผู้ผลิตและสร้างสรรค์ภาพยนตร์และซีรีส์แอนิเมชันชั้นนำของไทยและแนวหน้าของโลก ที่เพิ่งเปิดให้เทรดบน ZIPMEX ไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพราะคราวน์ โทเคนมาพร้อมโอกาสครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมของคอภาพยนตร์ ซีรีส์แอนิเมชัน และความบันเทิงต่าง ๆ ผ่านประสบการณ์ความพิเศษหลากหลายรูปแบบ อาทิ

• สิทธิได้รางวัลจากภาพยนตร์/ซีรีส์ และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง SMO ผ่านระบบ Staking
• สิทธิพิเศษ NFT Airdrop จากเครือทีแอนด์บีและพาร์ทเนอร์
• สิทธิพิเศษในการเข้าร่วมอีเวนต์ต่าง ๆ
• สิทธิในการโหวตเรื่องราวหรือทิศทางของภาพยนตร์
• สิทธิสร้างอวตารของตัวเองให้ไปปรากฏอยู่บนแอนิเมชันระดับโลก
• สิทธิในการเข้าร่วมประมูล NFT คอลเลกชั่นพิเศษ

พัฒนาสู่อีโคซิสเท็มที่ดีต่อทุกคน

ล่าสุดทีแอนด์บีได้เดินหน้าพัฒนาคราวน์ โทเคนให้พิเศษขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ พัฒนา “ADOT” แพลตฟอร์ม NFT ที่จะเป็นอีโคซิสเท็ม (Ecosystem) เชื่อมโยงระหว่างคราวน์ โทเคน และทรัพย์สินทางปัญญา (IP: Intellectual Property) ด้านความบันเทิง เพื่อมุ่งสู่ Translucia Metaverse เมกะโปรเจกต์โลกเสมือนของทีแอนด์บี

ทำให้คราวน์ โทเคนจะไม่ใช่ยูทิลิตี้ โทเคนที่มีไว้เพื่อสิทธิพิเศษเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ยังต่อยอดไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้ภาพยนตร์ ซีรีส์ แอนิเมชัน เพลง และผลงานความบันเทิงชิ้นโปรดของใครหลายคน ในแง่มุมของการลงทุนที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้ นับเป็นสิ่งดี ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มแฟนคลับ ครีเอเตอร์ และนักลงทุนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยพันธมิตรชั้นนำของไทยที่ร่วมประกาศความร่วมมือกับทีแอนด์บี ได้แก่

• คุณจักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ BBTV New Media กลุ่มเอ็นเทอร์เทนเมนต์แถวหน้าของวงการ
• ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิตัลชั้นนำของไทย
• คุณจิรยศ เทพพิพิธ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บริษัทอินโฟเฟด จำกัด Startup ด้าน อีสปอร์ตและเกม สัญชาติไทย
• คุณสินิทธ์ อาจหาญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชินเอ เซอร์วิส จำกัด เจ้าของ Cozy Gamesผู้ทำ GameFi (Blockchain & NFT Game) Studio & Publisher สัญชาติไทย
• คุณวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)  บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ
• คุณ วิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Search Entertainment กลุ่มเอ็นเทอร์เทนเมนต์แถวหน้าของวงการ ที่เน้นไปยังการผลิตรายการโทรทัศน์
• คุณพรชัย ว่องศรีอุดมพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Last Idol Thailand วงไอดอลชั้นนำของประเทศไทย
• คุณปิยะธิดา อิทธิระวิวงศ์ ประธานกรรมการ แผนกธุรกิจคลาวด์ ผู้นำด้านการสื่อสารโทรคมนาคมระดับโลก Huawei Technology (Thailand)
• คุณมนัสวิน นันทะเสน (ติ๊ก ชีโร่) ผู้ร่วมก่อตั้ง Lomabin (โลมาบิน) Community ของ Energy ใหม่ สด แรง ที่ พุ่งทะยานเข้าสู่รูปแบบ Digital music lifestyle
• ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กฤษฎา ศรีแผ้ว คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต สถาบันการศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
• คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร The One Enterprise กลุ่มเอ็นเทอร์เทนเมนต์แถวหน้าของวงการ

ในส่วนของพันธมิตรระดับโลก ทีแอนด์บีจับมือกับ Pellar Technology ผู้เชี่ยวชาญระบบบล็อกเชนระดับโลก Mr. Andrew Gordon ผู้อยู่เบื้องหลังแอนิเมชันชื่อดังระดับโลกอย่าง Monsters, Inc. Toy Story Mr. Kenji Xiao ผู้มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการแอนิเมชันในจีน และ Mr. Kevin Sun จาก Sunac Culture Group พาร์ทเนอร์ที่มีเครือข่ายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สวนสนุกธีมพาร์ค และเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน Family Entertainment ของจีน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แอนิเมชันและซีรีส์แอนิเมชันสุดอลังการสู่ตลาดโลก ระหว่างปี 2022 – 2025 ได้แก่ Legends of the Two Heroes, FriendZSpace, Looking for Gods, New Legend, The Forestias และ Blue City รวมทั้งนำไปต่อยอดบน ADOT

สรุปง่าย ๆ ว่า ADOT จะเชื่อมโยงทรัพย์สินทางปัญญาด้านความบันเทิงรูปแบบต่างๆ ที่เกิดจากความร่วมมือในครั้งนี้มาสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับศิลปิน ครีเอเตอร์ ผู้ผลิต รวมไปถึงผู้ชมหรือกลุ่มแฟนคลับ ผ่านการถือครองคราวน์ โทเคน เช่น การจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และการมีส่วนร่วมใน “Translucia Metaverse” ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ ของทีแอนด์บีด้วย ที่สำคัญ ADOT ยังมาพร้อมลูกเล่นมากมาย อาทิ Utility Function ที่ครีเอเตอร์สามารถกำหนดได้ว่าเมื่อนักสะสม (Collector) เก็บชิ้นงานได้ครบทั้งคอลเลกชั่นแล้ว จะสามารถนำมาแลกเปลี่ยน (Redeem) เป็น NFT ชนิดพิเศษได้ เช่น เข้าร่วมงาน Meet & Greet ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เป็นต้น

ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) กล่าวถึงก้าวต่อไปของ CWT และแพลตฟอร์ม ADOT ว่า เป็นปรากฏการณ์สำคัญของวงการโทเคนในประเทศไทยที่จะเชื่อมโยงโอกาสและพลิกโฉมครั้งใหญ่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ให้ดียิ่งขึ้นในยุคเงินดิจิทัลที่ไร้ขีดจำกัดนี้ ซึ่งจะสร้างทั้งชื่อเสียงและเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับทรัพย์สินทางปัญญาด้านความบันเทิง รวมถึงสร้างโอกาสมหาศาลให้กับศิลปิน ครีเอเตอร์ และผู้ชมด้วย เพราะสามารถมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่ ผ่านการถือครองคราวน์ โทเคน (CWT)

เสริมแกร่งด้วยบริษัทในเครือ

นอกจากนี้ ทีแอนด์บีได้เสริมความแกร่งให้อีโคซิสเท็มของคราวน์โทเคนมากขึ้น ด้วยบริษัทในเครืออย่าง Tree Roots Entertainment Group ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม SMO ที่จะเข้ามาเป็นศูนย์กลางทั้งในด้านการสร้างคอมมูนิตี้ (Community) และสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ให้กับเหล่าแฟนคลับ ครีเอเตอร์ และศิลปิน เพื่อทำให้คราวน์ โทเคน เป็นมากกว่ายูทิลิตี้ โทเคน และการลงทุน แต่เป็นสังคมใหม่ของคนชื่นชอบความบันเทิง

คุณพรรณธร ลออรรถวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มบริษัท T&B Media Global และประธานกรรมการบริหาร บริษัท VUCA Digital กล่าวว่า เรามีความตั้งใจในการสร้างคราวน์ โทเคนให้เป็นโทเคนระดับโลกที่จะเข้ามาช่วยจุดประกาย ให้กับทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าและต่อยอดให้กับผลงานของศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนต์ทุกคน เพราะฉะนั้นการสร้างอีโคซิสเท็มครั้งนี้จะไม่ใช่เพียงแค่ในกลุ่มองค์กรของทีแอนด์บี แต่จะเป็นโทเคนที่เชื่อมโยงกับพาร์ทเนอร์ในทุกอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มการใช้งานของคราวน์โทเคนให้กว้างขึ้นอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการถือครอง “คราวน์ โทเคน” คือโอกาสครั้งใหม่ของหลายอุตสาหกรรมทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ไม่เพียงแค่อุตสาหกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์เท่านั้น ทั้งในเรื่องการสร้างรายได้ การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ให้กับผู้ผลิตผลงาน รวมไปถึงการมีส่วนร่วมของผู้สนับสนุนหรือกลุ่มแฟนคลับ และยังสร้างธุรกิจได้อีกด้วย นับเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่นวัตกรรมการเงินบนโลกเสมือนที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทางการเงินยุคดิจิทัลอย่างไร้ขีดจำกัดของคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองและเข้าไปมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม คราวน์ โทเคนที่เปิดให้เทรดบน ZIPMEX เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากทั้งหมดเท่านั้น ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tandbmediaglobal.com/crowncoins และ https://www.facebook.com/CWT.official